วันนี้ (26 ก.ย.2564) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมในพื้นที่ลุ่มน้ำชี และสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนบน ส่งผลให้มีน้ำไหลลงมายังแม่น้ำชีตอนกลางและลำน้ำสาขา
ประกอบกับในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ลุ่มน้ำมูลในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี มีปริมาณฝนตกสะสมประมาณ 150 มิลลิเมตร ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่า ระดับน้ำบริเวณสถานีวัดน้ำ M.7 (บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย) อ.เมืองอุบลราชธานี จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและอาจล้นตลิ่งได้
รวมทั้งระดับน้ำในแม่น้ำชี แม่น้ำมูล และลำน้ำสาขา จะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจุบันประมาณ 0.5 - 1 เมตร ในช่วงวันที่ 26 ก.ย.- 2 ต.ค.2564 ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่โดยรอบได้รับผลกระทบ
เช็กพื้นที่ได้รับผลกระทบ
สำหรับพื้นที่ใกล้เคียงแม่น้ำซีและลำน้ำสาขา ที่อาจได้รับผลกระทบ ได้แก่
ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ บริเวณที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งแม่น้ำชี ในเขต อ.บ้านเขว้า อ.จัตุรัส อ.คอนสวรรค์ และ อ.เมือง ลำปะทาว ในเขต อ.เมือง ลำคันฉู ในเขต อ.บำเหน็จณรงค์ และ อ.จัตุรัส ลำน้ำพรม ในเขต อ.เกษตรสมบูรณ์
ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จะได้รับผลกระทบในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำชี ในเขต อ.แวงน้อย อ.แวงใหญ่ และ อ.มัญจาคีรี ลำน้ำเชิญ ในเขต อ.ภูผาม่าน และ อ.ชุมแพ
จ.ร้อยเอ็ด จะมีพื้นที่ได้รับผลกระทบในลำน้ำยัง ในเขต อ.เสลภูมิ ส่วนจ.ยโสธร มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำชี บริเวณ อ.เมือง อ.มหาชนะชัย อ.ค้อวัง และ อ.คำเขื่อนแก้ว
ส่วนของพื้นที่ใกล้แม่น้ำมูลและลำน้ำสาขา ที่อาจได้รับผลกระทบ ได้แก่
จ.อุบลราชธานี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ บริเวณที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งแม่น้ำมูล ในเขตเมืองอุบลราชธานี อ.วารินชำราบ อ.สว่างวีรวงค์ อ.ดอนมดแดง อ.ตาลสุม และ อ.พิบูลมังสาหาร ลำเซบาย ในเขต อ.ม่วงสามสิบ อ.เขื่องใน และ อ.เมือง ลำเซบก ในเขต อ.ตระการพืชผล อ.ม่วงสามสิบ อ.ตาลสุม และ อ.เหล่าเสือโก๊ก ลำโดมใหญ่ ในเขต อ.ทุ่งศรีอุดม อ.นาเยีย อ.น้ำขุ่น อ.เดชอุดม อ.นาจะหลวย และ อ.น้ำยืน
ทั้งนี้ ขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่จุดเสี่ยงและพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ และเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
กรมชลประทานได้เตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุรับสถานการณ์น้ำหลาก ทั้งด้านบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือต่าง ๆ รวมไปถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที จนกว่าสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว