วันนี้ (8 ต.ค.2564) สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก "สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย" แจ้งว่า ประเทศไทยหลุดออกจากประเทศกลุ่มสีแดง (Red List Countries) ของอังกฤษแล้ว และผู้ที่ฉีดวัคซีนในประเทศไทยบางชนิดจะได้รับยกเว้นไม่ต้องกักตัว เริ่มมีผลตั้งแต่เวลา 04.00 น. วันที่ 11 ต.ค.2564 เป็นต้นไป
ผู้ที่เดินทางจากประเทศไทยถึงอังกฤษ หลังเวลา 04.00 น. ของวันที่ 11 ต.ค.เป็นต้นไป มีข้อปฏิบัติคือ หาก "ได้รับวัคซีนครบโดส" หรือมีอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่จำเป็นต้องตรวจเชื้อก่อนเดินทาง หรือกักตัวหลังเดินทางถึงอังกฤษ แต่ต้องรับการตรวจหาเชื้อในวันที่ 2 หลังเดินทางถึงอังกฤษ โดยจองและชำระเงินค่าตรวจได้ตั้งแต่ก่อนเดินทาง และกรอก Passenger Locator Form ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
สำหรับวัคซีนที่สหราชอาณาจักรรับรอง ได้แก่ Oxford/AstraZeneca, Pfizer BioNTech, Moderna และ Janssen โดยผู้ที่เดินทางจากประเทศไทยต้องได้รับวัคซีนชนิดใดชนิดหนึ่งภายใน 14 วันก่อนเดินทาง จึงจะถือว่า "ได้รับวัคซีนครบโดส" โดยต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนซึ่งออกโดยหน่วยงานรัฐ ระบุชื่อ-นามสกุล วันเกิด ชนิดวัคซีนและผู้ผลิตวัคซีนนั้น เป็นภาษาอังกฤษ
ทั้งนี้ สามารถฉีดวัคซีน 4 ชนิดดังกล่าวแบบผสม (ไขว้สูตร) ได้ แต่หากเป็นชนิดอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ เช่น Sinovac - AstraZeneca ก็สามารถเข้าอังกฤษได้โดยปฏิบัติตามกฎสำหรับผู้ที่ยังฉีดวัคซีนไม่ครบแทน (Not fully Vaccinated)
ส่วนผู้เดินทางที่ยังถือว่าฉีดวัคซีนไม่ครบ จำเป็นต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนบิน รับการตรวจหลังเดินทางถึงสหราชอาณาจักรในวันที่ 2 และ 8 รวมถึงกักตัวด้วยตนเองเป็นเวลา 10 วัน โดยสามารถขอ Test to Release เพื่อออกจากการกักตัวในวันที่ 5 ได้