เว็บไซต์สำนักข่าว AP รายงานวันที่ 27 ต.ค.2564 ว่า หน้ากากผ้าซึ่งไม่เป็นที่นิยมหลายสิบล้านชิ้น ที่ผลิตขึ้นเนื่องในสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงสมัยรัฐบาล ชินโซ อาเบะ (Shinzo Abe) อดีตนายกฯ ญี่ปุ่น ไม่ถูกนำมาใช้งาน ตกค้างในโกดังเอกชน มูลค่ากว่า 3,300 ล้านบาท
หน้ากากผ้า 83 ล้านชิ้น หรือหน้ากากของอาเบะ (Abenomasks) ถูกจัดเก็บในคลัง เป็นจำนวนเกือบ 1 ใน 3 ของหน้ากากทั้งหมด 280 ล้านชิ้น ที่รัฐบาลจัดหาให้ประชาชน ในช่วงที่หน้ากากอนามัยขาดแคลนอย่างหนักเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นในขณะนั้น วางแผนจะแจกจ่ายให้ครัวเรือนละ 2 ชิ้น ทุกครัวเรือน
อย่างไรก็ตาม หน้ากากที่ผลิตออกมามีน้อยคนที่ได้ใช้งานจริง ๆ เนื่องจากรุ่นแรกที่ผลิตออกมาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ขนาดเล็กเกินไป แทบจะไม่สามารถปิดจมูกและปากของผู้ใช้งาน และมาช้าเกินไป ขณะที่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ ใช้งานสะดวกกว่าเริ่มกลับมาจำหน่ายอีกครั้ง
นอกจากนั้นโครงการผลิตหน้ากากก็ยังถูกระงับไว้ เนื่องจากปัญหาด้านคุณภาพ บางชิ้นมีคราบ มีตำหนิและการปนเปื้อนอื่น ๆ ในบรรจุภัณฑ์ด้วย
โยชิฮิโกะ อิโซซากิ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น แถลงว่า หน้ากากผ้าที่เก็บอยู่ในคลังมีมูลค่า 11,500 ล้านเยน (กว่า 3,300 ล้านบาท) และมีมูลค่าการจัดเก็บระหว่างเดือน ส.ค.2563 ถึง มี.ค.2564 ถึง 600 ล้านเยน (กว่า 175 ล้านบาท)
นายอิโซซากิกล่าวว่า มีการแจกจ่ายหน้ากากผ้าให้ประชาชนไปแล้วราว 130 ล้านชิ้น รวมถึงส่งให้บ้านพักคนชราและสถานรับเลี้ยงเด็กตามที่มีการร้องขอมา แต่ก็ยังตกค้างในคลังสินค้าอีกจำนวนมาก
พร้อมยืนยันว่า โครงการผลิตหน้ากากเหมาะสมต่อช่วงที่หน้ากากขาดแคลน และรัฐบาลจะพิจารณาความเป็นไปได้ ในการใช้หน้ากากที่เหลือ ตามความจำเป็น ต่อไป
ที่มา: AP