วันนี้ (3 พ.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมการกำหนดมาตรการเยียวยาให้กับประชาชน จากกรณีการปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ตามสัญญาสัมปทาน ในวันที่ 15 ธ.ค.2564
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) มีแนวทางการกำหนดมาตรการเยียวยาให้กับประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 จึงขอให้ BEM ออกมาตรการส่งเสริมการตลาด หรือชะลอการขึ้นค่าผ่านทางที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค.นี้
เบื้องต้น BEM จะออกมาตรการการตลาดและโปรโมชัน ในรูปแบบผู้ใช้ทางที่ใช้คูปองชำระค่าผ่านทางในอัตราราคาเดิมที่ใช้อยู่ เป็นระยะเวลา 1 ปี (15 ธ.ค.64-15 ธ.ค.65) แต่การชำระด้วยเงินสด และ Easy Pass ต้องจ่ายในราคาที่ปรับใหม่ตามสัญญา ขณะที่ปัจจุบันมีผู้ใช้ทางด่วนศรีรัช-วงแหวน ประมาณ 59,000 คันต่อวัน
ขณะที่นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า มาตรการที่นำออกมาเยียวยาประชาชนครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน และถือเป็นทางออกที่ดีกับทุกฝ่าย โดยยืนยันว่าจะไม่เกิดปัญหากลายเป็นค่าโง่ทางด่วน
ด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่า กทพ. ระบุว่า มาตรการเยียวยาด้วยการใช้คูปองนี้ คาดว่าจะมีผู้ใช้ทางด่วนเส้นทางดังกล่าวไม่น้อยกว่า 50-60% จะได้รับประโยชน์ จากฐานปัจจุบันที่มีรถใช้ทางด่วนสายนี้เฉลี่ยวันละ 50,000-60,000 คัน
ทั้งนี้ ภายหลังการหารือ ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยผู้บริหาร กทพ. และ BEM ได้แถลงข่าวร่วมกัน โดยผู้บริหาร BEM มั่นใจว่าจะประชาสัมพันธ์และจัดพิมพ์คูปอง เพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้ใช้ทางได้ก่อนถึงกำหนดเวลาปรับขึ้นค่าผ่านทาง ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้
สำหรับอัตราค่าผ่านทางของทางด่วนช่วงดังกล่าว หากผู้ใช้ทางซื้อคูปอง จะจ่ายค่าผ่านทางในอัตราราคาเดิม คือรถ 4 ล้อ 50 บาท, รถ 6-10 ล้อ 80 บาท, รถมากกว่า 10 ล้อ 115 บาท ส่วนผู้ใช้ทางที่จะจ่ายเงินสด หรือใช้ระบบ Easy Pass จะต้องจ่ายค่าผ่านทางในอัตราใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.นี้ ในอัตรา รถ 4 ล้อ 65 บาท (เพิ่ม 15 บาท) รถ 6-10 ล้อ 105 (เพิ่ม 25 บาท) รถมากกว่า 10 ล้อ 150 บาท (เพิ่ม 35 บาท)
อ่านข่าวอื่นๆ
ห้างฯ เตรียมหารือจัดเคานต์ดาวน์-ขอเปิดลานเบียร์
ขีดเส้น 7 วัน คืนเงินค่าบัตร BANGKOK FEST หลังเลื่อนงาน 2 รอบ