วันนี้ (3 พ.ย.2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะผู้แทนไทย เดินทางเข้าร่วมเวทีการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่ามา โดยล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น.เดินทางกลับถึงไทยแล้ว
นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีดรามาการกล่าวถ้อยแถลงบนเวที COP26 ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเหมือนกับคำกล่าวของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐอเมริกา ที่เคยพูดไว้เมื่อปี 2558 เรื่องไม่ให้มีแผนที่สอง
ผู้นำอาจคิดเหมือนกันก็ได้ ใครจะไปจำได้ว่าคนอื่นพูดว่าอย่างไร และคำนี้กระทรวงการต่างประเทศ ก็คิดให้ ได้ถามกระทรวงการต่างประเทศว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ ในเรื่องของการใช้คำว่าแพลน เอ แพลน บี ซึ่งคำว่างแพลนบี เป็นคำศัพท์ของกระทรวงต่างประเทศ ทุกประเทศก็ใช้เหมือนกัน
พลิกโฉมไทยต้องมองอนาคตร่วมกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่เน้นย้ำไป คือโลกเรามีใบเดียว เราไม่มีโลกใบใหม่อีกแล้วที่จะให้ลูกหลานอยู่ต่อไป ถ้าเขาทำให้โลกใบนี้เสียหาย ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของผู้นำแต่ละประเทศ หรือตัวแทนมักเป็นประเทศรับความเดือดร้อนจากภาวะโลกร้อน
ประเทศไทยต้องพลิกโฉมประเทศ ทั้งความมั่นคงเศรษฐกิจ และอื่นๆ รัฐบาลทำมาแล้วทั้งหมดขึ้นกับทุกคนว่าจะมีความเข้าใจ มองอนาคตร่วมกัน ถึงจะพลิกโฉมประเทศไทย
เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในเวที COP26 ประกาศเพิ่มเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจกร่วมกับประชาคมโลกเพื่อแก้วิกฤติสภาพภูมิอากาศ โดยไทยจะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปีค.ศ.2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065 โดยใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เราทุกคนไม่มีแผนสองในเรื่องการรักษา เยียวยาสภาพภูมิอากาศ เพราะเราจะไม่มีโลกที่สอง ซึ่งเป็นบ้านของพวกเราเหมือนโลกนี้อีกแล้ว
ขณะที่สปีช ของบารัคปี 2558 ระบุว่า
And we’re the first generation to fell the impact of climatechange we’re the last generation that can do something about it.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ประกาศต่อ COP26 ไทยพร้อมยกระดับแก้วิกฤตภูมิอากาศ
ท่าทีไทยก่อนประชุม COP-26 หลังโลกร้อนขึ้น 1.1 องศา
ประชุม COP26 กลุ่มเคลื่อนไหวร้องผู้นำโลกแก้วิกฤตสภาพอากาศ