เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2564 ผู้ทำประกับภัยโควิดกับบริษัท เดอะวัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) แบบเจอจ่ายจบ จะได้รับข้อความสั้นในโทรศัพท์มือถือ SMS ของ THE ONE แจ้งขอปรับเปลี่ยนความคุ้มครองโควิดแบบเจอจ่ายจบ
เมื่อกดเข้าไปดูปรากฏว่า บริษัทได้อ้างจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นถึง 300 เท่า หรือ 30,000 เปอร์เซ็น แม้บริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่ชดเชยค่าสินไหมทดแทน ให้กับผู้ทำประกันที่ติดเชื้อโควิด ซึ่งถือเป็นเงินจำนวนที่สูงมาก
ซึ่งส่วนนี้เองได้ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของบริษัท ทำให้ไม่สามารถรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ จึงจำเป็นต้องเข้าร่วมโครงการตามมาตการผ่อนปรน ซึ่งเป็นไปตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
และเพื่อให้บริษัทยังคงรักษาสภาพคล่องทางการเงินได้ สำหรับคุ้มครองสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ทำประกัน จึงขอให้เปลี่ยนกรมธรรม์ให้ผู้ประกันภัย เลือกแนวทางอย่างใดอย่างหนึ่งในแนวทางนี้
1.ให้สิทธิเปลี่ยนกรมธรรม์ฉบับใหม่ บอกเลิกกรมธรรม์ฉบับเดิม คุ้มครองเฉพาะกรณีเจ็บป่วยขั้นสุดท้าย (ภาวะโคม่า) ด้วยทุนประกัน 5 เท่า ของวงเงินจำกัดความรับผิดชอบคุ้มครองผลประโยชน์การเจ็บป่วยด้วยภาวะที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อโควิด (เจอจ่ายจบ) โดยไม่ต้องชำระเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติม หรือ
2.ให้สิทธิเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลฉบับใหม่ บริษัทฯ จะออกกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลฉบับใหม่ โดยจะให้ความคุ้มครองด้วยทุนประกันภัย 10 เท่า ของวงเงิน ประกันแบบเจอจ่ายจบ โดยไม่ต้องชำระเบี้ยประกันภัยเพิ่ม
3. หากไม่ประสงค์ใช้สิทธิตามข้อ 1 และ 2 สามารถบอกเลิกกรมธรรม์ ซึ่งบริษัทฯ ยินดีคืนเบี้ยประกันภัยให้เต็มจำนวน 100%
และ 4.ให้สิทธินำเบี้ยประกันภัยที่ได้รับคืนตามข้อ 3 มาซื้อกรมธรรม์ประกันภัยอื่นของบริษัทฯ จะได้รับส่วนลดเป็นจำนวนเงิน 2 เท่าของเบี้ยประกันภัยที่ได้รับคืน ซึ่งให้ผู้ทำประกับเลือกภายใน 7 วันหลังได้รับข้อความนี้
หลังมีข้อความดังกล่าวออกมา ทำให้ผู้ทำประกันจำนวนมาก นำประเด็นนี้มาโพสต์ตั้งคำถามในเฟซบุ๊ก อย่างในกลุ่มของผู้ทำประกันภัยเดอะวันว่าการ ส่ง SMS ลักษณะนี้มา เป็นการบังคับให้ยกเลิกกรมธรรม์โควิด แบบเจอจ่ายจบ
หรือเปลี่ยนเป็นกรรมธรรม์อื่นแทน ภายใน 7 วัน โดยไม่แจ้งต่อด้วยว่าถ้าไม่ยินยอมเปลี่ยนหรือยกเลิก ลูกค้าจะเป็นยังไงต่อ หรือการส่งข้อความมาแบบนี้ถ้าใน 7 วันผู้ทำประกันภัยไม่เลือก จะเกิดอะไรขึ้น
เหตุการณ์ลักษณะนี้เป็นการมัดมือชกให้ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ และเมื่อบริษัทประกันไม่สามารถดำเนินธุรกิจแบบมีสภาพคล่องได้แล้วหน่วยงานอย่าง คปภ.ควรจะต้องเข้ามาดูแลผู้ทำประกัน หรือมาช่วยเหลือติดตามด้วย
ประกันโควิด "เจอจ่ายจบ" ยอดเครมสูงขั้นวิกฤต
จากข้อมูลของสมาคมประกันวินาศภัยไทย พบว่าในช่วงที่ผ่านมาหลายบริษัทมีการขายกรมธรรม์ประกันโควิด "เจอจ่ายจบ" ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงสิ้นเดือน ส.ค.2564 มียอดกรมธรรม์สะสมสูงถึง 39.86 ล้านฉบับ เบี้ยประกันภัยสะสมรวม 11,250 ล้านบาท
แต่ช่วงที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากรอบล่าสุด ส่งผลให้แต่ละบริษัทมียอดเคลมสูง จนต้องยุติการขายกรมธรรม์เจอจ่ายจบ เนื่องจากประสบภาวะขาดทุนและส่งผลกระทบต่อสถานะเงินกองทุนของหลายๆ บริษัท
ล่าสุด ยอดเครมประกันพุ่งสูงเกิน 30,000 ล้านบาท ในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นสัญญาณอันตรายมาก เพราะตามกฎหมายการรับความเสี่ยงภัยใดภัยหนึ่งต้องไม่เกิน 10% ของระดับเงินกองทุน แต่ปัจจุบันเคลมจากโควิดเกินกว่า 26% ของเงินกองทุนแล้ว
คปภ.นัดถกหาทางออกบริษัทประกัน 15 พ.ย.นี้
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ.ให้สัมภาษณ์กับ “เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ บอร์ด คปภ.ได้รับทราบถึงปัญหาเบื้องต้นแล้ว และเห็นว่าถ้าจะปรับปรุงหรือยกเลิกคำสั่งจะกระทบกับประชาชนผู้เอาประกันหลายสิบล้านคน โดย คปภ.เตรียมนัดประชุมสมาคมประกันวินาศภัยไทยและบริษัทสมาชิกเข้าร่วมหารือในวันที่ 15 พ.ย.2564 ว่าจะมีวิธีการ หรือทางเลือกอื่นๆ ให้ประชาชนหรือไม่
เพราะตอนนี้ข้อเสนอมีแค่แนวทางเดียวคือให้ยกเลิกคำสั่ง บอกเลิกกรมธรรม์ประกันโควิด ซึ่งไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากประชาชน ดังนั้น ควรจะเป็นแบบสมัครใจในการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขความคุ้มครองหรือไม่
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ข้อกำหนดปรับพื้นที่สีแดงเข้ม-ขยายเคอร์ฟิวถึง 30 พ.ย.
วิสามัญฯ ผู้ค้ายาเสพติด ยึดยาบ้า 6 ล้านเม็ด
ที่ประชุม COP26 ปิดฉาก หลังได้ข้อสรุปแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม