วันนี้ (18 พ.ย.2564) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อปัญหาลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสม เพื่อบรรเทาภาระลูกหนี้ จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ส่งผลให้ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ หรือไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามที่กำหนด
ปัจจุบันมีลูกหนี้กยศ.อยู่ประมาณ 6 ล้านคน ปิดยอดการกู้ไปแล้ว 1.5 ล้านกว่าคน อยู่ระหว่างการเรียน 800,000 คน อยู่ระหว่างการผ่อนชำระ 3.5 ล้านคน มีการผิดนัดชำระ 2.3 ล้านคน
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ลูกหนี้กยศ. เป็นเยาวชนที่รักเรียนจึงได้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และเข้าสู่วัยทำงานที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ และฟื้นฟูประเทศ หากตกงาน หรือได้รับผลกระทบทำให้รายได้ลดลงจากเดิม ไม่สามารถผ่อนชำระได้อย่างต่อเนื่อง
ติดหนี้อย่าหนี-นัดถกช่วยลดคดีความ
และหากถูกฟ้องดำเนินคดีก็จะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในกระบวนการยุติธรรม และถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาด และยังเดือดร้อนถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง และผู้ค้ำประกันซึ่งส่วนใหญ่เป็นครูผู้สอนก็ต้องรับภาระชำระหนี้แทนลูกศิษย์ ซึ่งกลายเป็นปัญหาทับถมหนี้สินครูอีก
ทั้งนี้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับกยศ.จัดให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดีขึ้น ในเดือนธ.ค.นี้ เพื่อให้บริการประชาชนสามารถยื่นเรื่องปรับโครงสร้างหนี้และยื่นคำร้องขอเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้ทาง www.studentloan.or.th หรือสายด่วน กยศ. 02 016 4888
อยากแจ้งน้องๆ ทุกคนว่าหากกำลังแบกภาระหนี้จากผลกระทบ COVID-19 อย่าหนีหาย ให้มาพูดคุยกันได้ การแก้ไขปัญหาลูกหนี้ กยศ. โดยใช้กระบวนการไกล่เกลี่ยจะให้โอกาสกับเยาวชน และคนวัยทำงานได้เจรจาทำให้ไม่ต้องเป็นคดีความ