วันนี้ (4 ธ.ค.2564) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ขณะนี้แตกต่างจากเมื่อ 1 ปีก่อนอย่างมาก และทั่วโลกควรเตรียมตัวรับมือเชื้อสายพันธุ์ "โอมิครอน" แต่ไม่ควรตื่นตระหนก
ล่าสุด องค์การอนามัยโลกพบเชื้อสายพันธุ์นี้แล้วในอย่างน้อย 38 ประเทศ แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบต่อวัคซีน หรือความรุนแรงของโรค ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า โลกอาจจะไม่จำเป็นต้องสรรหาวัคซีนชนิดใหม่ และวัคซีนเข็มกระตุ้นอาจเพียงพอสำหรับการรับมือโอมิครอน
อย่างไรก็ตาม โอมิครอนอาจมีโอกาสกลายเป็นเชื้อสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดได้ แต่ขณะนี้ยังยากที่จะประเมิน โดยปัจจุบันสายพันธุ์เดลตาเป็นเชื้อที่พบระบาดอยู่ถึงร้อยละ 99 ทั่วโลก ขณะที่นักวิทยาศาสตร์จากสหภาพยุโรปและออสเตรเลีย ประมาณการณ์ว่าโอมิครอนอาจทำให้มีผู้ติดเชื้อมากกว่าเดลตาได้ภายในเวลา 2-3 เดือน
ด้านเม็กซิโกยืนยันการพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนคนแรก เป็นชาวแอฟริกาใต้ที่เดินทางเข้าเม็กซิโก เมื่อวันที่ 21 พ.ย. และเริ่มแสดงอาการป่วยในวันที่ 27 พ.ย. ซึ่งเม็กซิโกเป็นประเทศที่ไม่บังคับใช้กฎการเดินทางเข้าประเทศ ทั้งการตรวจหาเชื้อหรือกักตัว เนื่องจากมองว่าไม่มีประโยชน์ แม้จะมีอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ต่อจำนวนประชากรสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลกก็ตาม
"อังกฤษ-เบลเยียม" เร่งฉีดวัคซีน-ยกระดับรับมือโอมิครอน
หลายประเทศเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อรับมือไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน โดยที่อังกฤษ ประชาชนจำนวนมากให้ความร่วมมือไปใช้บริการตามศูนย์ฉีดวัคซีนหลายแห่งในกรุงลอนดอน ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้แก่ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปให้ได้ทั้งหมดภายในปลายเดือน ม.ค.2565 ล่าสุดทั่วทั้งสหราชอาณาจักรมีรายงานการพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้วอย่างน้อย 42 คน
ส่วนที่เบลเยียมมีการยกระดับมาตรการรับมือโควิด-19 อีกครั้ง โดยนายกรัฐมนตรีเบลเยียม พร้อมรัฐมนตรีสาธารณสุข ระบุว่า สถานการณ์การระบาดในขณะนี้ทำให้มีผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก จนส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคอื่นๆ และโควิด-19 ระบาดอย่างรวดเร็วเป็นวงกว้าง จนต้องจำกัดการแพร่ระบาดทันทีในขณะที่ยังทำได้
รัฐบาลเบลเยียมจึงประกาศให้โรงเรียนประถมศึกษา ปิดการเรียนการสอนช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิม 1 สัปดาห์ ขณะที่โรงเรียนมัธยมศึกษาจะเปลี่ยนไปเรียนจากบ้านครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้จะบังคับใช้กฎการสวมหน้ากากในประชาชนอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป จากเดิมที่บังคับบุคคลอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ขณะที่ยังเปิดโอกาสให้ร้านอาหารและสถานบันเทิงเปิดได้จนถึงเวลา 23.00 น.
ที่มา : BBC, Reuters, AP
อ่านข่าวอื่นๆ
คนแรก! "มาเลเซีย" พบ นศ.กลับจากแอฟริกาใต้ติดโอมิครอน
"ญี่ปุ่น" ยกเลิกคำสั่งห้ามจองตั๋วเครื่องบินเข้าประเทศ