เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2564 จากกรณีชาวบ้านจัดงานศพยาย วัย 78 ปี ที่มีอาการป่วยและญาตินำไปรักษาที่โรงพยาบาลหนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ แล้วเสียชีวิต ทางญาติจึงรับศพกลับมาจากโรงพยาบาล และตั้งศพบำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้าน โดยจัดพิธีรดน้ำศพในช่วงเช้า และพอเวลาประมาณทุ่มครึ่ง
ขณะที่กำลังเตรียมสวดพระอภิธรรมศพ ทางโรงพยาบาลได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า ยายเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ญาติและเพื่อนบ้านที่มาร่วมงานศพ ต่างพากันตกใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และที่สำคัญบุคคลทั้งหมดที่มาร่วมงานกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ทันที
ขณะที่ทางญาติ ๆ ได้สอบถามข้อเท็จจริง ไปยังโรงพยาบาลหนองไผ่ กลับไม่ได้คำตอบใดๆ จากโรงพยาบาล ทำให้เกิดความข้องใจ และสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานของทางโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก
ล่าสุด นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สั่งการให้ นพ.สมรัฐ ศรีตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองไผ่ สรุปข้อเท็จจริงทั้งหมด และได้มอบหมายให้ นพ.กมล กัญญาประสิทธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ทำการแถลงข่าวที่ห้องประชุมโรงพยาบาลหนองไผ่
นพ.ขวัญยืน จุลศรี แพทย์ที่ทำการรักษา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทางญาติได้พานางหนูเฟื้อย มาลา อายุ 78 ปี เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองไผ่ ด้วยอาการเหนื่อยล้า มีไข้ อ่อนเพลีย ถ่ายเหลว เนื่องจากน้ำตาลสูง ซึ่งตัวผู้ป่วยเองมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว คือ โรคเบาหวาน ทางทีมแพทย์ได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี ATK แต่ไม่พบเชื้อ จึงได้ให้คนไข้เข้ารักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยรวม อาการโดยรวมดีขึ้นตามลำดับ
จนกระทั่งวันที่ 6 ธ.ค. พบว่า ผู้ป่วยมีอาการทรุดหนัก หมดสติ ไม่มีสัญญาณชีพ เนื่องจากปอดติดเชื้อ และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางแพทย์จึงได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง จนกระทั่งผลออกมาพบว่า ผู้ตายติดเชื้อโควิด-19
ขณะที่ นพ.กมล กัญญาประสิทธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่ทางญาติๆ ติดใจเรื่องการเสียชีวิตว่ามาจากผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนนั้น ข้อนี้ทางแพทย์ขอยืนยันว่า ไม่ใช่ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน แต่เป็นการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 และยังเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน จึงทำให้ผู้เสียชีวิตติดเชื้อแบตทีเรีย และเชื้อไวรัสพร้อมกัน ซึ่งทางทีมแพทย์ก็ได้พยายามเต็มที่แล้ว
สำหรับเรื่องที่ทางโรงพยาบาลอนุญาตให้นำศพออกไปก่อน แทนที่จะรอให้ผลตรวจโควิด-19 ครั้งที่ 2 ออกมาก่อน ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ยอมรับผิดตรงจุดนี้ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ญาติๆ และคนที่มาร่วมงานศพมีความเสี่ยงไปด้วย แต่ทางสาธารณสุขก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทันทีที่ทราบผล ก็ได้รีบส่งทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่ทันที พบผู้เสี่ยงสูง จำนวน 17 คน ผู้เสี่ยงต่ำ 200 คน ซึ่งทั้งหมดผลออกมาเป็นลบ และให้อยู่ระหว่างกักตัวเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด
หลังจากนี้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองไผ่ และทีมแพทย์ ก็จะลงพื้นที่เข้าไปขอโทษและทำความเข้าใจกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิตอีกครั้ง