กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย
ล่าสุด วันนี้ (23 ธ.ค.2564) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปต้องเรียกตัวนายสิระมารับทราบข้อกล่าวหาและสรุปฟ้อง โดยมีอัตราโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และตัดสิทธิทางการเมือง 20 ปี ส่วนทางสภาฯ จะต้องเรียกคืนเงินทั้งเงินเดือน เบี้ยประชุมคณะกรรมาธิการทั้งหมด สวัสดิการต่าง ๆ ที่นายสิระอาจจะเบิกรักษาพยาบาล นอกจากนี้ นายสิระยังมีผู้ช่วย ส.ส.อีก 8 คน รวมทั้งสิ้น 2 ปี เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ และนายสิระต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง โดย กกต.ต้องจ่ายเงินไปก่อนและเรียกเก็บกับนายสิระ หากไม่จ่ายก็ต้องมีการฟ้องร้องต่อไป
นอกจากนี้ นายสิระ ยังได้แจ้งความเท็จกับสภาฯ ในการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ด้วย จึงขอเอกสารไปที่เลขาธิการสภาฯ แต่ได้รับคำตอบว่าได้ส่งเอกสารไปที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีทั้งหมดแล้ว จึงได้ทำเรื่องขอเอกสารไปยังเลขาฯ ครม. ซึ่งทางรองเลขาฯ ปฏิเสธไม่ให้เอกสารโดยอ้างว่าเป็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตนได้ไปเปิดพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มาตรา 4 ได้ยกเว้นการกระทำของสภาฯ หรือ กมธ.
ทั้งนี้ ตนทำในฐานะประธาน กมธ.แต่เมื่อไม่ยอมให้ จึงตั้งเรื่องนายสิระในการแจ้งความเท็จในการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ โดยจะต้องดำเนินคดีกับเลขา ครม.และ รองเลขาฯ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งผิดทั้งประมวลกฎหมายอาญาและ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ส่วนพรรคเสรีรวมไทยจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตหลักสี่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เมื่อดูคะแนนเลือกตั้งครั้งก่อน พรรคเสรีรวมไทยอยู่ลำดับที่ 5 หากส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง คะแนนของพรรคเสรีรวมไทยอาจไปตัดกับพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ก็จะทำให้ฝ่ายรัฐบาลหรือพรรคพลังประชารัฐชนะ จึงยอมที่จะไม่ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้สมัครฝ่ายค้านได้เป็น ส.ส.ในเขตนี้