ผู้ต้องหาคดี "เสือโคร่ง" ร้อง กสม. ถูกขับพ้นเขาแหลม-ห้ามเลี้ยงสัตว์

ความคืบหน้ากรณีอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี นำป้ายเข้าติดในบ้านผู้ต้องหา 5 คนในคดีล่าเสือโคร่ง 2 ตัว เนื่องจากทำผิดเงื่อนไขการได้รับผ่อนปรน ตามมติคณะรัฐมนตรี 30 มิ.ย.2541 

วันนี้ (20 ม.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกูกือ ยินดี หนึ่งใน 5 ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีล่าเสือโคร่ง ชาวบ้านหมู่บ้านปิล๊อกคี่ จ.กาญจนบุรี ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เพื่อขอความเป็นธรรม และขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน หลังอุทยานนำหนังสือและป้ายติดประกาศที่บ้านขับพ้นอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และทางอุทยานฯ ยังจะเข้ามาควบคุมการเลี้ยงวัว ควายในพื้นที่

โดยหนังสือระบุว่า เป็นแค่ชาวบ้านเลี้ยงปศุสัตว์เท่านั้น การยิงเสือเพื่อป้องกันวัว ควายทรัพย์สินที่เป็นรายได้หลักในการยังชีพ และอยากเรียกร้องขอความยุติธรรม เพราะตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค.64 สัตว์เลี้ยงที่นำไปเลี้ยงบนภูเขา ถูกเสือกัดกิน และสูญหายไป 30 ตัว

 

หนังสือที่ยื่นถึง กสม.ยังระบุว่า ชาวบ้านรับสารภาพมอบตัว รอวันติดคุก แต่เรื่องกลับไม่จบที่ชาวบ้านถูกดำเนินคดี แต่วันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กลับนำป้ายไวนิล และออกหนังสือคำสั่งขับไล่ครอบครัวพี่น้องของทั้ง 5 คนพ้นจากอุทยานฯเขาแหลม จึงขอให้ กสม.ช่วยเหลือ เพราะถูกดำเนินคดีและยังถูกไล่ที่อยู่อาศัยทำกิน

อ่านข่าวเพิ่ม ชาวบ้านกังวลผิดเงื่อนไขอยู่ในป่า เล็งจัดระเบียบปศุสัตว์บ้านปิล็อกคี่

ครั้งแรกชาวบ้านถูกขับพ้นอุทยานฯ-ยันชาวบ้านไม่มีใบสั่ง

นายประสาท แดงเถิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านปิล็อกคี่ จ.กาญจนบุรี ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ ว่า ขณะนี้ผู้ถูกดำเนินคดีทั้ง 5 คน กังวลเรื่องการถูกขับพ้นอุทยานเขาแหลม แม้ว่าจะเข้าใจว่าเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย สามารถอุทธรณ์ได้ โดยเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำป้าย หนังสือและป้ายไวนิลมาติดที่บ้านผู้ถูกดำเนินคดีไปแล้ว

เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน ไม่เคยมีกรณีแบบนี้  ชาวบ้านเขารับสารภาพว่ากระทำจริง แต่ไม่มีวัตถุประสงค์จะล่า เพื่อนำจะค้าขายตามที่ข่าวออกมา แค่แค้นเสือมากัดวัวควาย  รู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขนาดนี้ 

 

ขณะที่นายกูกือ ได้ให้สัมภาษณ์ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ชี้แจงการเข้าติดป้ายที่บ้านเพราะทำผิดเงื่อนไขมติครม.30 มิ.ย.2541 โดยบอกว่าไม่กังวลใจ เพราะยอมรับว่าทำผิดจริง แต่ไม่ได้เป็นคนลงมือยิงเสือโคร่ง 

เชื่อว่าชาวบ้านไม่น่าจะกังวลว่าจะโดนผลกระทบเรื่องที่ดินที่ได้รับผ่อนปรนให้ทำกินในเขตป่าเขาแหลม เพราะคดีการยิงเสือโคร่งไม่เกี่ยวกัน   

 

สั่งหาข้อเท็จจริงสอบเครือญาติ-บริวารภายใน 30 วัน

นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ได้รับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้าน และได้รับการประสานจากทาง กสม.มาแล้ว จึงมอบหมายให้ นายกมลาส อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเครือญาติ และบริวารที่อาศัยในบ้านของทั้ง 5 คน มีส่วนร่วมในการทำผิดหรือไม่ และถ้ารู้เห็นเป็นใจก็ว่าไปตามข้อกฎหมาย

มอบหมายให้ไปสืบสวนว่าบุคคลในครอบครัวรู้เห็นหรือไม่ เพื่อให้ความเป็นธรรม เพราะเป็นพื้นที่ผ่อนปรนห้ามทำการฝ่าฝืนผิดเงื่อนไข มีเวลา 30 วัน ในการนำพยานหลักฐานมาชี้แจงความบริสุทธิ์ใจ ก็ถ้าไม่มาก็จะแจ้งเหมารวม จะถูกขับออกจากอุทยานฯ  

นายนิพนธ์ กล่าวว่า สำหรับตัวผู้ถูกดำเนินคดีทั้ง 5 คนถึงอย่างไรก็มีความผิดอยู่แล้ว ส่วนเครือญาติ พี่น้องในบ้าน ต้องมาแสดงความบริสุทธิ์ว่าไมได้มีส่วนรู้เห็นเป็นใจในการสนับสนุนการกระทำผิดล่าเสือโคร่ง ไม่อย่างนั้นก็จะถูกโดนว่าทำผิดเงื่อนไขไปด้วยต้องถูกให้ออกจากพื้นที่ 

ไทยชูความสำเร็จเพิ่มเสือโคร่งในป่าตะวันตก 

วันเดียวกันกรมอุทยานฯ เตรียมเสนอความสำเร็จของไทยอนุรักษ์เสือโคร่งในรอบ 10 ปีหลังปฏิญญาเซนต์ปีเตอร์เบิกครบ 10 ปี ในเวทีการประชุมระดับรัฐมนตรีประเทศเอเชีย ด้านการอนุรักษ์เสือโคร่ง  4 (The 4th Asia Ministerial Conference on Tiger Conservation) วันที่ 19- 21 ม.ค.นี้ ที่ประเทศมาเลเซียผ่านระบบการประชุมทางไกล ร่วม 13 ประเทศ

โดยไทยถือได้ว่าเป็นต้นแบบของการอนุรักษ์และฟื้นฟูเสือโคร่ง เนื่องจากเพิ่มจำนวนประชากรเสือโคร่งในป่าธรรมชาติได้เป็นผลสำเร็จ ปัจจุบันมีการสำรวจประชากรเสือมากกว่า 200-250 ตัว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

สั่งขับไล่-รื้อบ้าน 5 ผู้ต้องหาล่าเสือโคร่ง พ้นอุทยานฯ เขาแหลม

ตร.มั่นใจคดี “ล่าเสือ” เอาผิดได้ ไม่เชื่อฆ่าเพราะกินวัว-โยงค้าสัตว์ป่า