ในช่วง 2-3 ปี ธุรกิจร้านสะดวกซัก เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ขยายตัวมาก ทำให้มีผู้ลงทุนธุรกิจนี้ในรูปแบบแฟรนไชส์ ใช้เงินลงทุนเฉลี่ย 2-4 ล้านบาท และในช่วงโควิด-19 ยังได้รับความนิยมเพิ่ม เพราะมีตู้อบผ้าฆ่าเชื้อโรค หลายคนจึงเริ่มสนใจลงทุนลักษณะแฟรนไชส์ จนมีความกังวลว่าจะเกิดฟองสบู่ในธุรกิจนี้
นายสุกรี กีไร ผจก.ฝ่ายขายฯ บริษัท อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ซิสเต็มส์ แอลแอลซี เตือนว่า หากจะลงทุนในธุรกิจนี้จำเป็นต้องดูแผนธุรกิจก่อน โดยเฉพาะตัวแทนจำหน่ายเครื่องซักผ้าอบผ้า เพราะเป็นต้นทุนร้อยละ 60 ของเงินลงทุนทั้งหมด ซึ่งกลุ่มตัวแทนจะต้องดูแลเครื่องต่อหลังจากลงทุนไปแล้ว ระยะ 5-10 ปี เพราะปัจจุบันเกิดปัญหาบางบริษัทที่ขายแฟรนไชน์ไม่ดูแลต่อ กระทบต่อผู้ทำธุรกิจนี้แล้ว
นายสุกรี ยังระบุว่า การเติบโตในตลาดธุรกิจร้านสะดวกซักในไทยยังมีโอกาสขยายตัวสูงมาก แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาธุรกิจโรงแรมจะได้รับผลกระทบ แต่ปัจจุบันพบว่าโรงพยาบาลและโรงแรมที่เป็น Quarantine หันมาใช้ตู้อบผ้าสูงขึ้น รวมถึงธุรกิจนี้ยังขยายตัวในหลายจังหวัด
พร้อมทั้งคาดว่าปี 2565 ภาพรวมธุรกิจจะเติบโตก้าวกระโดดขยายสูงถึง 3,500 แห่ง จากปี 2564 ที่มีเพียง 2,400 แห่ง และจะขยายสูงถึง 8,000 แห่งใน 6-7 ปีข้างหน้า คิดเป็นมูลค่าตลาดแตะ 10,000 ล้านบาท จากปี 2564 ที่ 7,000 ล้านบาท
อ่านข่าวอื่นๆ
ร้านสะดวกซัก Washcoin ลอยแพแฟรนไชส์ เสียหายกว่า 100 ล้านบาท
ธปท.ออกธนบัตรพอลิเมอร์ ชนิดราคา 20 บาท เริ่มใช้ 24 มี.ค.นี้
MRT เตรียมให้ใช้บัตร Visa/Mastercard แตะจ่ายได้ไม่ต้องรอซื้อเหรียญ