วันนี้ (30 ม.ค.2565) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำมันรั่วไหลที่เกิดเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมการรับมือในการแก้ไขปัญหาคราบน้ำมัน โดยกรมควบคุมมลพิษ ได้คาดการณ์การเคลื่อนตัวของคราบน้ำมันโดยใช้โปรแกรม Oil Map
ผลการคาดการณ์พบว่า คราบน้ำมันจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งหาดแม่รำพึง ในวันที่ 28 ม.ค. เวลาประมาณ 17.00 น. หลังจากที่น้ำมันมีการเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งตามการคาดการณ์เมื่อเวลา 22.00 น. ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถรับมือ และดำเนินการการเก็บกู้คราบน้ำมันได้อย่างรวดเร็วจนสถานการณ์ปัจจุบันได้กลับเข้าสู่สภาพปกติ
เฝ้าระวังคราบน้ำมันพัดเข้าอ่าวพร้าว
นายวราวุธ ระบุว่า ขณะนี้มีแนวโน้มที่คลื่นลมจะเคลื่อนตัวจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก เป้าหมายต่อไปที่ต้องเฝ้าระวัง คือบริเวณอ่าวพร้าว บนเกาะเสม็ด เพราะทิศทางลมและการเคลื่อนตัวของน้ำมันกำลังเคลื่อนตัวไปบริเวณดังกล่าว แต่เนื่องจากจุดนั้นมีช่องแคบประมาณ 500 เมตร ที่จะป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันขึ้นชายฝั่งได้ จึงให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังเตรียมความพร้อมรับมือ
ในส่วนการเฝ้าระวังขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ ให้กับประชาชนงดจับสัตว์น้ำประมาณ 1 เดือน ในเบื้องต้นจังหวัดจะดูแลประสานช่วยเหลือการเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบ ส่วนการฟื้นฟูและประเมินความเสียหายด้านทรัพยากรทางทะเลจะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้จังหวัดเข้มงวด ตรวจตรา โรงงานในพื้นที่ ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการจะต้องหมั่นตรวจตราอุปกรณ์เครื่องมือ ทั้งที่อยู่บนบก และในทะเล ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เนื่องจากการฟื้นฟูทรัพยากรจะใช้งบประมาณมากกว่าการป้องกันที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้
ด้าน พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ระบุว่า ขณะนี้คราบน้ำมันอยู่ห่างจากเกาะเสม็ด 4-5 กิโลเมตร คาดว่าคราบน้ำมันจะเป็นฟิล์มบาง ๆ ประเมินว่า อ่าวพร้าวจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
"จิสด้า" เผยภาพเช้านี้ "หาดแม่รำพึง" ไม่พบคราบน้ำมัน
ขณะที่ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (จิสด้า) เผยภาพดาวเทียมไทยโชต เวลา 10.16 น. ไม่พบคราบน้ำมันในบริเวณหาดแม่รำพึง รวมถึงพื้นที่เฝ้าระวังในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด
อย่างไรก็ตาม GISTDA จะใช้ดาวเทียม RADARSAT-2 ซึ่งเป็นดาวเทียมระบบเรดาร์ ทำการบันทึกภาพในวันนี้ช่วงเวลา 18.40 น. เพื่อตรวจสอบคราบฟิล์มน้ำมันดิบอีกครั้ง เนื่องจากระบบเรดาร์สามารถตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่ปนเปื้อนคราบน้ำมันที่สายตาไม่สามารถมองเห็นได้ เพื่อความมั่นใจว่าไม่มีคราบน้ำมันในท้องทะเลแล้ว