"สุรชาติ" แห่ขอบคุณชาวหลักสี่-จตุจักร หลังคว้าเก้าอี้ ส.ส.

วันนี้ (31 ม.ค.2565) นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ขึ้นรถแห่กล่าวขอบคุณประชาชนในพื้นที่ ระบุที่ประชาชนให้มานั้นมีความหมายมากกว่าชัยชนะ เพราะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต และชัยชนะครั้งนี้มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่จะดูแลประชาชนต่อไปอย่างตั้งใจที่สุดในความทุ่มเท เพื่อการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรมุ่งหวังพัฒนาด้านคุณภาพชีวิตของประชาชน

แม้เป็น ส.ส.ฝ่ายค้านแต่ก็จะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ปราศจากอคติ ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรของทุกคน และไม่คิดว่าการเข้าไปทำงานในสภาฯ จะไปล้มล้างหรือทำร้ายใคร แต่จะนำตัวตนสะท้อนความคิดของประชาชนไปสู่รัฐบาล

ส่วนเรื่องร้องเรียนการเลือกตั้งก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และย้ำว่าต้องการให้การเลือกตั้งทุกครั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์และยุติธรรม หลังจากที่ได้รับชัยชนะก็มีผู้ใหญ่ทางการเมืองโทรเข้ามาแสดงความยินดีอย่างมาก และอายุของสภาผู้แทนราษฎรที่เหลืออยู่อีก 1 ปีก็จะลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อนำความเห็น-ปัญหา มาจัดทำนโยบายร่วมกับพรรคเพื่อไทยเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งต่อไปด้วย

 

 
นพ.ชลน่าน ชี้ผู้มาใช้สิทธิน้อยกว่าที่คาด

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวว่า วันนี้ออกมากล่าวขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง และยอมรับว่าผู้ออกมาใช้สิทธิอาจจะน้อยไป เพียงร้อยละ 52.86 หรือจำนวน 88,000 คน แต่ขอบคุณประชาชนที่เลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย 29,000 คะแนน และชี้ว่าผลการเลือกตั้งตอบโจทย์ประชาชนคือ เลือกคนทำงานจริง ไม่ทิ้งพื้นที่เพื่อศักดิ์ศรีของชาวหลักสี่และจตุจักร

ส่วนผลการเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลที่เป็นอันดับ 2 และอาจเป็นคู่แข่งสำคัญในอนาคตของพรรคเพื่อไทยนั้น หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ในทางการเมืองทุกพรรคการเมืองถือว่าเป็นคู่แข่ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับนโยบายแต่ละพรรคว่าจะทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างไร

ในมุมของเพื่อไทยทุกพรรคการเมืองเป็นคู่แข่งแต่ไม่ใช่เป็นศัตรูกัน เพราะทุกพรรคถือเป็นส่วนร่วมสำคัญที่จะสร้างสรรค์การปกครองระบบประชาธิปไตย โดยไม่ได้มองว่าการที่พรรคใดพรรคหนึ่งมีคะแนนขึ้นมาจะส่งผลกระทบอะไรกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่

นพ.ชลน่าน ปัดตอบปมโพสต์ "ธรรมนัส"

นพ.ชลน่าน ได้ปฏิเสธให้ความเห็นกรณีโพสต์ข้อความใน Facebook ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่มีข้อความหนึ่งเป็นภาษาอังกฤษหมายถึง "ศัตรูของศัตรูคือมิตร" เพียงแต่กล่าวว่า ทุกคนเป็นเพื่อนเป็นมิตรทางการเมืองกันได้ ซึ่งหากใครคิดว่าทำแนวทางการเมืองไปแล้วไปต่อไม่ได้ หรือไม่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง หากจะคิดมาดูแนวทางใหม่หรือพรรคการเมืองที่ทำอยู่แล้วนำมาปรับใช้ก็อาจจะเป็นประโยชน์ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะร่วมงานกัน เพราะเป็นแนวทางที่ทุกคนต่างเสาะแสวงหาได้

ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่าในอนาคตเพราะ ร.อ.ธรรมนัส จะมาจับมือทางการเมืองกับเพื่อไทยนั้นก็เป็นการคาดการณ์ของคอการเมือง ส่วนจะเป็นจริงหรือไม่ ในมุมของพรรคเพื่อไทยยึดมั่นในอุดมการคือการต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ หากใครจะร่วมงานจะต้องมีแนวทางเดียวกันนี้