"น้องอ้อม" น.ส.นันทพร ก้อนรัมย์ ตามฝันสำเร็จเรียนจบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย สาขาวิชาการสอนภาษาจีน กลายเป็นบัณฑิตพิการทางการมองเห็น คนแรกของประเทศไทยที่เรียนภาษาจีนโดยใช้อักษรเบรลล์ภาษาจีน เป็นสื่อหลักในการเรียนการสอนตลอดหลักสูตร
ไทยพีบีเอสออนไลน์ชวน "น้องอ้อม นันทพร" พูดคุยถึงชีวิตการเรียนในมหาวิทยาลัยที่เรียกได้ว่าไม่ง่ายเลย เพราะต้องผ่านหลายบททดสอบกับชีวิต
"นันทพร" เล่าย้อนไปก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ว่า ตนเองมีความสนใจในเรียนภาษาอยู่แล้ว โดยในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย ตนมีความสนใจในเรื่องการร้องเพลง และเพลงที่ชอบจะเป็นเพลงภาษาจีน และเพลงลูกทุ่ง ในขณะนั้นโรงเรียนมัธยมปลายที่จะศึกษาต่อได้เปิดหลักสูตร ศิลป์ - ภาษาจีน จึงเลือกเรียนและเริ่มสนใจภาษาจีนตั้งแต่นั้นมา
"เป็นคนแรก ๆ เหมือนกัน สำหรับผู้พิการทางสายตา ที่เรียนภาษาจีนในระดับมัธยมปลาย ส่วนใหญ่เพื่อนจะเลือกเรียนภาษาฝรั่งเศส และเยอรมันมากกว่า"
"นันทพร" ยังเล่าถึงเส้นทางการเข้ามหาวิทยาลัยว่า "ไม่ง่ายนัก" เธอต้องสอบสัมภาษณ์ และต้องใช้ความพยายามหลายอย่าง เพื่อพิสูจน์ว่าความพิการทางสายตาไม่เป็นอุปสรรคในการเรียน จนในที่สุดเธอได้รับโอกาสให้เข้าเรียนสาขาวิชาการสอนภาษาจีน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้สำเร็จ
"การเรียนก็ได้รับความสนุบสนุนจากครอบครัวในทุกด้าน รวมไปถึง อาจารย์ เพื่อน ๆ ซึ่งทำให้รู้สึกมีความสุขกับการเรียนมาก และรู้สึกภูมิใจที่ได้เข้ามาเรียนในสาขาภาษาจีน"
"นันทพร" ยังบอกว่า ด้วยตนเองมีพื้นฐานในการเรียนภาษาจีนมาตั้งแต่มัธยมปลาย เมื่อเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก สิ่งที่ตนเองทำได้ดีที่สุด คือ การพูดภาษาจีน อาจมาจากความชื่นชอบร้องเพลงด้วย ส่วนการออกเสียงไม่ค่อยมีปัญหา แต่มีจุดที่ยาก คือ การเขียนและการอ่าน
ช่วงปีแรก เทอม 1 เข้ามาเรียนภาษาจีน เริ่มจากการฟังแผ่นซีดีที่มีติดมาจากในหนังสือก่อน เทอมถัดไปจึงได้เรียนใช้อักษรเบรลล์ภาษาจีนอย่างจริงจัง โดยมีเพื่อน ๆ ช่วยติว และอาจารย์คอยให้คำปรึกษาตลอดหลักสูตร ทำให้การเรียนเป็นด้วยความสนุกและราบรื่น
"นันทพร" บอกว่า ตนเองมีพื้นฐานอักษรเบรลล์อยู่แล้ว ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ทำให้การเรียนพอไปได้ แต่ก็มีติดขัดเหมือนกัน เช่น ภาษาจีนบางคำที่ออกเสียงเหมือนกัน แต่ความหมายคนละอย่างเป็นอะไรที่แยกยากมาก ต้องอาศัยเพื่อนที่สายตาปกติในการถามตอบข้อสงสัย
การจดจำอักษรเบรลล์ภาษาจีนค่อนข้างยากในช่วงแรก ๆ ภาษาจีนพยัญชนะมีมากกว่า มีทั้งสระเดี่ยว และสระผสม กว่า 20 ตัว ขณะที่การเขียนภาษาจีนปัจจุบันก็ไม่ใช้ปัญหา เพราะมีเทคโนโลยี ทั้งสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ลงโปรแกรมสามารถอ่านภาษาจีนและพิมพ์ไปที่เครื่องได้เลย แต่บ้างครั้งโปรแกรมที่แปลงคำอาจมีผิดเพี้ยนบ้าง ก็ต้องให้คนที่มองเห็นช่วยดูด้วย
ในส่วนของการเรียนสาขาภาษาจีน สิ่งที่ชอบที่สุดคือ การได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเพณี วัฒนธรรมของประเทศจีน เพราะยังมีหลายอย่างที่ยังไม่รู้ และชอบที่จะเรียนรู้เสมอ
ความพิการทางสายตา ถือว่ามีอุปรรคอยู่บ้าง แต่ด้วยความชื่นชอบในภาษาจีน "นันทพร" จึงไม่เคยย่อท้อกับอุปสรรคที่เข้ามา
ไม่ได้มองทุกอย่างว่าเป็น "อุปสรรค" เมื่อเกิดขึ้นเราจะนิ่งดูดายไม่แก้ไขก็ไม่ได้ เราพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเอง พึงพาตัวเองให้มากที่สุดนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุด
"ครูสอนภาษาจีน" อีกบทบาทของชีวิต
หลังจบการศึกษา "นันทพร" ได้รับบทบาทใหม่ในการเป็น "ครู" ที่โรงเรียนคนตาบอดกรุงเทพฯ ต่อยอดทักษะด้านภาษาจีนให้เด็กรุ่นต่อไปได้เรียนรู้ต่อไป
"นันทพร" บอกว่า อยากเป็นแรงบันดาลใจให้น้อง ๆ รุ่นต่อไป มองเห็นโอกาสที่จะเข้ามาเรียน เมื่อเห็นว่าตนเองทำได้ เขาก็ต้องทำได้เช่นกัน ไม่อยากให้ยอมแพ้กับการเรียน
อยากให้น้อง ๆ ได้มีโอกาสในการเลือกเรียน สาขาที่แตกต่างอาจไม่ใช้แค่ภาษาจีน หากชอบให้ลองสู้ดู ให้ลองสักตั้ง ไม่อยากให้เลือกเรียนไปให้พอจบ ๆ ได้ทำงาน อยากให้เลือกเพราะชอบ มีเป้าหมายกับสิ่งที่ทำชัดเจน
ส่วนในอนาคตหากมีโอกาส ก็อยากที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ และท้าทาย ทั้งการแปล โดยเฉพาะนิยายจีน ที่ตนเองชื่นชอบ