วันนี้ (16 ก.พ.2565) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat" ระบุว่า ทะลุ 415 ล้าน เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 1,879,487 คน ตายเพิ่ม 9,715 คน รวมแล้วติดไปรวม 415,752,018 คน เสียชีวิตรวม 5,855,012 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เยอรมัน รัสเซีย ฝรั่งเศส บราซิล และตุรกี
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ/ใต้ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 96.94 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 96.61
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็นร้อยละ 54.1 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 39.95 เมื่อวานนี้ จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 17 ใน 20 อันดับแรกของโลก
อัพเดตสถานการณ์โลกจาก WHO
รายงานล่าสุดเมื่อวานนี้ 15 กุมภาพันธ์ 2565 จาก WHO Weekly Epidemiological Update ทั่วโลกมีจำนวนติดเชื้อใหม่รายสัปดาห์ลดลง 19% และจำนวนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 4%
การติดเชื้อใหม่มีแนวโน้มลดลงชัดเจนในแทบทุกทวีป ยกเว้นภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก แต่การเสียชีวิตนั้นเพิ่มขึ้นทุกทวีป ยกเว้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่างไรก็ตาม หากดูสถิติรายสัปดาห์ของไทยรายสัปดาห์จาก Worldometer จะพบว่าติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 51% และตายเพิ่มขึ้นถึง 22% บ่งถึงสถานการณ์การรระบาดที่ยังรุนแรง
ข้อมูลเกี่ยวกับ Omicron สายพันธุ์ BA.2
สรุปข้อมูลวิชาการล่าสุด มีสาระสำคัญดังนี้ 1. BA.2 สามารถแพร่เชื้อได้ไวกว่า Omicron สายพันธุ์เดิม BA.1 ถึง 30% 2. ข้อมูลจากสหราชอาณาจักรและเดนมาร์ก BA.2 สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในสมาชิกครอบครัวได้มากกว่า Omicron สายพันธุ์เดิม BA.1 ราว 30% (1.3 เท่า)
3. ความรุนแรงของ BA.2 ไม่ได้ต่างจาก BA.1 4. เรื่องการดื้อต่อภูมิคุ้มกันจากวัคซีนนั้น BA.2 ไม่ได้ต่างจาก BA.1 และ 5. การตรวจคัดกรองโรคด้วยวิธีมาตรฐานยังสามารถตรวจการติดเชื้อนี้ได้ ส่วนเรื่องการรักษานั้นยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะสรุปได้ว่าประสิทธิภาพของการรักษาแต่ละวิธีนั้นจะเหมือนหรือแตกต่างจากสายพันธุ์อื่น
วันนี้ มาฆบูชา ขอให้เราถือโอกาสใช้ในการประเมินวิถีการดำเนินชีวิตปัจจุบันของเราว่าเป็นไปด้วยความมีสติ ไม่ประมาท ดีเพียงพอแล้วหรือไม่ ระมัดระวังเรื่องกิเลสที่จะนำพาไปสู่พฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อแพร่เชื้อ ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม
สถานการณ์ระบาดในประเทศยังรุนแรงต่อเนื่อง ควรป้องกันตัวอย่างเป็นกิจวัตร ใส่หน้ากากเสมอ เว้นระยะห่างจากคนอื่น พบปะคนเท่าที่จำเป็น ใช้เวลาสั้นๆ เลี่ยงที่แออัดหรือระบายอากาศไม่ดี
เลี่ยงการกินดื่มหรือแชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่น และหากไม่สบาย ควรหยุดงานหยุดเรียน ตรวจรักษาให้หายดีเสียก่อน ถือเป็นความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ราชบัณฑิตยสภา แจงชื่อภาษาอังกฤษเมืองหลวง "Krung Thep Maha Nakhon"
ครึ่งเดือนก.พ.โควิดพุ่ง 16,462 คน พบ 5 จว.ฉีดเข็ม 3 ไม่ถึง 10%