เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2565 ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ที่ร่วมก่อเหตุปล้นร้านทองกรุงเทพ 4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2565 เพิ่มอีก 1 คน เป็นชาวชาติพันธุ์ม้งในพื้นที่ ต.รวมไทยพัฒนา ทำหน้าที่จัดหารถยนต์ และอาวุธปืน รวมทั้งยังนำผู้ก่อเหตุ 3 คน หลบหนีไปส่งชายแดน และออกนอกประเทศไป ซึ่งตำรวจเชื่อว่าผู้ร่วมก่อเหตุอาจจะมีมากกว่า 4 คน ที่ออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ เพราะทำเป็นขบวนการใหญ่
ส่วนผู้ก่อเหตุที่หลบหนีไปประเทศเมียนมานั้น เชื่อว่าฝ่ายเมียนมาจะสามารถจับกุมได้ หลังทางการไทยได้ประสานไปทุกฝ่ายแล้ว เนื่องจากหลักฐานรองเท้าบูธยาง เสื้อผ้า และภาพจากกล้องวงจรปิด มีความเชื่อมโยงกันทั้งหมด และการสอบปากคำภรรยาของผู้ก่อเหตุที่หนีไปฝั่งเมียนมา ทำให้ได้ข้อมูลสมบูรณ์มากขึ้น
ร้องเยียวยาหลังสามีถูกยิงเสียชีวิต
ขณะที่นางติ่นหม่า วิน อายุ 33 ปี ภรรยานายอากา อายุ 30 ปี เข้าร้องเรียนกับองค์กรช่วยเหลือแรงงานเมียนมา หลังสามีถูกยิงเสียชีวิตระหว่างเหตุปล้นร้านทอง
นางติ่นหม่า วิน เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้เข้าไปซื้อสร้อยคอทองคำให้ลูก ระหว่างนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุบุกปล้น ทำให้เธอ และสามีหลบเข้าไปซ่อนตัวใต้เคาน์เตอร์ ส่วนลูกๆ เจ้าของร้านหลบเข้าหลังร้าน
เมื่อผู้ก่อเหตุออกจากร้านไปแล้ว เจ้าของร้านจึงเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับอาวุธปืน สามีซึ่งเข้าใจว่าปลอดภัยแล้ว จึงลุกยืนขึ้น แต่เจ้าของร้านตกใจใช้อาวุธปืนยิงใส่สามีก่อนที่ลูกๆ จะออกมาบอกว่าสามีเป็นลูกค้า ไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ
นางติ่นหม่า วิน และสามี เป็นชาวเมืองพะโค ประเทศเมียนมา สามีทำงานเป็นแรงงานในอยู่ อ.พบพระ ประมาณ 10 ปี ส่วนภรรยา ทำงานได้ 6 ปี เป็นแรงงานที่เข้ามาตามข้อตกลงเอ็มโอยู.ใช้หนังสือเดินทางประเภทแรงงาน
พ.ต.อ.อำพล วงศ์ใหญ่ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก กล่าวว่า คดีนี้ ยังอยู่ระหว่างสอบสวน เบื้องต้น ทราบว่าครอบครัวเจ้าของร้านทอง อยู่ระหว่างการเจรจากับญาติผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีเงินเยียวยาผู้เสียชีวิต ซึ่งจะได้รับ หากเข้าหลักเกณท์ตามระเบียบของทางราชการ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง