ความคืบหน้ากรณีกำแพงภายในหมู่บ้านเติมรัก 5 อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พังถล่มลงมา ทำให้ด้านหลังบ้านที่ติดกับนาข้าวได้รับความเสียหายรวม 6 หลังคาเรือน เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา
วันนี้ (21 ก.พ.2565) น.ส.ภัทรพร พนิกรณ์ ประธานนิติบุคคลหมู่บ้านเติมรัก 5 และเป็นหนึ่งในบ้านที่ได้รับความเสียหาย เล่าว่า ความเสียหายดังกล่าวเริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค.2564 โดยเริ่มจากความเสียหาย 2 หลัง ลักษณะดินริมกำแพงทรุด ทำให้พื้นที่หลังบ้านไสลด์ลงไปในที่นาข้าว ก่อนหน้านั้นได้แจ้งกับเจ้าของโครงการแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข รวมทั้งแจ้งไปหน่วยงานราชการที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมให้มาตรวจสอบก็ไม่ได้รับการแก้ไข กระทั่งมาเกิดเหตุซ้ำและสร้งความเสียหายให้บ้านใกล้เคียงรวม 6 หลัง
สำหรับโครงสร้างของบ้าน ยังไม่แน่ใจว่าจะมีความมั่นคงแข็งแรงมากเพียงใด เนื่องจากยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ หลังเกิดเหตุก็ต้องออกค่าใช้จ่ายซ่อมแซมบ้านบางส่วนไปกว่า 10,000 บาท เนื่องจากระบบน้ำประปา และท่อระบายน้ำได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด
ร้องขอความช่วยเหลือทั้งศูนย์ดำรงธรรม สคบ. โครงการ แต่ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ถ้าไม่รีบซ่อมแซมเสียหายทั้งแถบแน่ ๆ
ขณะที่วันนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบลงตรวจสอบพื้นที่ พบบ้านที่เสียหายชัดเจน 6 หลัง นายธีระ โรจนประดิษฐ์ ปลัดอำเภอไทรน้อย เปิดเผยว่า สรุปแนวทางได้ 2 ประเด็น คือ การก่อสร้างได้มาตรฐานหรือไม่ มอบหมายให้ผู้อำนวยการกองช่าง เข้าไปดูแบบอนุญาต การก่อสร้างว่าถูกต้องตามแบบที่ยื่นขออนุญาตไว้หรือไม่ เพราะบ้านสร้างประมาณ 10 ปี กำแพงไม่น่าพังเร็ว ส่วนด้านข้อกฎหมายให้ผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมทั้ง 6 หลัง ยื่นฟ้องคดีแพ่งศาลคุ้มครองผู้บริโภค
ไม่สามารถติดต่อเจ้าของโครงการได้ จะให้ผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมยื่นฟ้องคดีแพ่ง
ด้านนายถีราวัตน์ แจ้มผาสุข ชาวนาในพื้นที่ มองว่า พื้นที่จุดมีปัญหาเป็นพื้นที่ที่มีน้ำขัง และน้ำไหลออกมาจากหมู่บ้าน ทำให้ชาวนาต้องขุดเจาะเพื่อระบายน้ำออก แต่ไม่ลึกมากนัก ส่วนเหตุกำแพงล้มอาจเป็นพราะการก่อสร้างไม่แข็งแรงพอ
ล่าสุด ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบนำคลิปหลักฐานเป็นภาพรถแบ็กโฮที่ระบุว่าเป็นข้อมูลจากโครงการหมู่บ้าน ว่า เกิดจากบุคคลที่อยู่บริเวณที่นาข้างหมู่บ้านขุดคลองตักดิน ทำให้ดินทรุดและรั้วกำแพงเสียหาย เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ไทรน้อย พร้อมกับนายเกียรติคุณ ต้นยาง ประธานชมรมทนายจิตอาสา เพื่อหาผู้กระทำผิดในข้อหาฐานทำให้เสียทรัพย์