วันนี้ (28 ก.พ.2565) ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ในปี 2565 ธุรกิจขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold-chain Logistics) ที่เน้นเจาะกลุ่ม B2C หรือการขายระหว่างเจ้าของธุรกิจสู่ผู้บริโภค จะมีมูลค่าประมาณ 2,900-3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จะเติบโตในกรอบ 15-20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งชะลอจากปีก่อนหน้าที่คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 40-45% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฐานสูงและปัจจัยเร่งชั่วคราวจากการล็อกดาวน์หมดลง
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมา ผู้บริโภคเกิดการรับรู้และเคยชินกับการใช้บริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิเพิ่มขึ้นในวงกว้าง จึงคาดว่าความต้องการใช้บริการยังคงขยายตัว โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอาหารสด อาหารปรุงสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้า ธุรกิจ Cold-chain แบบ B2C ยังต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่อาจทำให้การขนส่งสินค้าในบางพื้นที่ต้องหยุดชะงัก และยังมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่มีความผันผวนและปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รวมไปถึงการแข่งขันที่มีแนวโน้มรุนแรงทั้งในมิติของจำนวนผู้เล่นที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและการแข่งขันด้านราคาค่าบริการ จากการที่ผู้ประกอบการขนส่งสินค้ารายใหญ่หลายรายเริ่มหันมารุกตลาดมากขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ผู้ประกอบการควรเน้นไปที่การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เช่น การลดระยะเวลาในการจัดส่งสินค้า การลดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการขนส่ง
นอกจากนี้ ควรเร่งสร้างเครือข่ายผ่านการทำสัญญาระยะยาวกับผู้ประกอบการต่างๆ ที่ใช้บริการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ เช่น ธุรกิจร้านอาหาร เพื่อที่จะสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาและเลือกใช้เทคโนโลยีในการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
"แม่แตงโม" ไม่พร้อมเจอ 5 คนบนเรือ ส่งมือถือลูกให้ ตร.ตรวจสอบ
อัปเดตชีวิต พญาแร้ง "ป๊อก-มิ่ง" 14 วันเริ่มจับคู่
รัสเซียเดินหน้าบุก "กรุงเคียฟ-คาร์คีฟ" อียูส่งอาวุธหนุนยูเครน