กรมราชทัณฑ์ มีข้อสั่งการถึงผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน สถานกักขัง และสถานกักกัน ขอความร่วมมือเฝ้าระวังประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนผู้ต้องขัง ห้ามกินแจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หลังเกิดเหตุผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดหนองบัวลำภู นำเจลแอลกอฮอล์ไปผสมน้ำอัดลม จนทำให้เสียชีวิต 1 คน ตาบอด 1 คน ป่วยอีก 31 คน
วันนี้ (9 มี.ค.2565) นพ.ธาตรี สุนพงศรี ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีการลักลอบกดเจลแอลกอฮอล์เก็บสะสมใส่ถุง เตรียมการนำมาผสมน้ำอัดลมดื่มฉลองช่วงปีใหม่และอยากมึนเมา โดยกดตามจุดตั้งขวดเจลฯ ภายในเรือนจำ เช่น จุดก่อนเข้าโรงนอน หรือก่อนทำกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้ผู้ต้องขังที่ดื่มเครื่องดื่มที่คิดสูตรขึ้นมาเองดังกล่าว เสียชีวิต 1 คน ตาบอด 1 คน ต้องนอนรักษาตัวใน รพ. 4-5 คน ส่วนที่้เหลืออาการไม่หนัก ดื่มไม่มากก็จะคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
ทั้งนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลและเก็บรักษาแอลกฮอล์ให้มิดชิด ส่วนผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าวมีความผิดทางวินัย
ผู้ต้องขังกลุ่มนี้ลักลอบเก็บในถุงเตรียมการมาผสมกับน้ำอัดลมกิน คนที่กินเยอะเสียชีวิต 1 คน ตาบอด 1 คน
นพ.ธาตรี กล่าวว่า โดยปกติแล้วแอลกอฮอล์เป็นสิ่งต้องห้ามภายในเรือนจำ แต่ช่วงสถานการณ์ COVID-19 ได้ผ่อนปรนให้ตั้งขวดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือตามจุดต่าง ๆ เมื่อเกิดกรณีดังกล่าวได้สั่งการไปยังเรือนจำทั่วประเทศ ให้ใช้แอลกอฮอล์เฉพาะในสถานพยาบาลสำหรับล้างแผล และงดใช้เจลแอลกอฮอล์ หรือใช้ให้น้อยที่สุด เปลี่ยนเป็นการตั้งจุดล้างมือด้วยสบู่แทน พร้อมทั้งให้ความรู้กับผู้ต้องขังเกี่ยวกับผลข้างเคียงของแอลกอฮอล์ 2 ประเภท คือ เอธานอล และเมทานอล
ทั้งนี้ การใช้เมทานอลเป็นส่วนประกอบของเจลแอลกอฮอล์ล้างมือนั้น มีพิษมากสามารถดูดซึมเข้าผิวหนังและลมหายใจ ห้ามใช้กับร่างหายจะก่อให้เกิดการระคายเคืองจมูก ลำคอ ปวดศีรษะ ง่วงนอน ไอ ท้องร่วง ปวดท้อง ง่วงซึม สายตาพร่ามัว หากได้รับสัมผัสในปริมาณมากจะทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้