วันนี้ (10 มี.ค.2565) นายนิกร จำนง ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง 2 ฉบับ รับหนังสือจากพรรคไทยภักดี ที่ให้ข้อเสนอแนะต่อร่างกฎหมายลูก 3 ประเด็น ซึ่งกรรมาธิการรับไปพิจารณา แต่บางประเด็นชี้ว่าอยู่นอกหลักการ
ประกอบด้วย เสนอให้การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบ ส.ส.พึงมี , การกำหนดให้ผู้รับเงินซื้อเสียงไม่มีความผิด และมีสิทธิดำเนินคดีกับผู้ให้เงินซื้อเสียง เพื่อตัดวงจรการซื้อสิทธิ์ขายเสียงหวังทำให้การเลือกตั้งโปร่งใสสุจริต และเสนอ พิจารณาใช้ระบบดิจิตอลบาท ในการใช้ค่าใช้จ่ายการเลือกตั้ง
ในฐานะกรรมาธิการยังเปิดเผยถึงการประชุมในวันนี้ว่า จะเป็นการพิจารณาร่างกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง โดยนำร่างของพรรคร่วมรัฐบาลมาพิจารณาเป็นร่างหลัก และเชื่อว่า มีประเด็นที่ยังมีความเห็นต่างระหว่างกรรมาธิการสัดส่วน ส.ว. และกรรมาธิการสัดส่วนพรรคการเมืองเรื่องของการทำไพรมารีโหวต ซึ่งเห็นได้จากการพิจารณาตั้งแต่วาระรับหลักการ จึงต้องมีการคุยกันในเรื่องนี้
การทำไพรมารีโหวตนั้น เปลี่ยนมาเป็นการรับฟังความเห็นของสมาชิกแทนการเลือกตั้งขั้นต้น โดยฟังความเห็นจากสมาชิกเป็นตัวแทนสาขาหรือตัวแทนประจำจังหวัด ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 45 กำหนดไว้ ซึ่งถือว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ พร้อม เปิดเผยว่า เตรียมประเด็นข้อกฎหมายหักล้างเรื่องการทำไพรมารีโหวตว่าเดิมรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดเจตนารมณ์เอาไว้ เพราะร่างที่ กรธ.โดยนายมีชัย ฤชุพันธ์ เสนอ สนช.ไม่มีการกำหนดเอาไว้แต่เป็นการเพิ่มภายหลัง
อีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องของการบริหารของพรรคการเมือง เรื่องตัวแทนประจำจังหวัด ซึ่งตอนยกร่างครั้งแรกไม่มีพรรคการเมืองเข้าไปให้ความเห็นและเป็นการจัดทำร่างกฎหมายโดย สนช. จึงทำให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ ซึ่งการเลือกตั้งที่ผ่านมา คสช.ต้องออกประกาศผ่อนคลาย เนื่องจากไม่สามารถที่จะหาตัวแทนประจำเขตเลือกตั้งได้ตามกฎหมาย
สำหรับบรรยากาศการประชุมกรรมาธิการช่วงเช้านี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ ประธานกรรมาธิการได้แจ้งต่อที่ประชุมทราบว่า การประชุม ครม. เมื่อวานนี้ว่า ได้มีการคุยกันเรื่องปัญหาสงคราม ระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน โดยอยากให้กรรมาธิการช่วยพูดกับประชาชนด้วยว่า ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติพลังงาน หรือ วิกฤติข้าวของแพง เป็นประเด็นที่เกิดจากผลกระทบมาจากสงครามที่มีแนวโน้มว่าจะยืดเยื้อ รัฐบาลก็จะเดินหน้าเต็มที่ที่จะช่วยเหลือประชาชน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยงบประมาณและปัจจัยอื่น ๆ
ทั้งนี้ ในส่วนที่ทำได้ เช่น การที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังประเทศซาอุดิอาระเบีย กระทรวงการต่างประเทศก็มีข้อเสนอที่จะพูดคุยในเรื่องพลังงาน เพราะประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ จึงยืนยันว่ารัฐบาลทำเต็มที่