วันนี้ (10 มี.ค.2565) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ยุน ซอค-ยอล จากพรรคฝ่ายค้าน People Power Party คว้าชัยชนะเหนือ "อี แจ-มยอง" จากพรรครัฐบาล Democratic Party ด้วยคะแนนที่สูสีกันที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีผลต่างคะแนนไม่ถึง 1% กลายเป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้
สำหรับผู้สมัครจากทั้ง 2 พรรค มีคะแนนคู่คี่สูสีกันมาตั้งแต่เริ่มเปิดการหาเสียงเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจากหลายสำนักครั้งล่าสุด 1 สัปดาห์ก่อนวันเลือกตั้ง ชี้ตรงกันว่า ผู้สมัครจากพรรคฝ่ายค้านน่าจะคว้าชัยในศึกครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อผู้สมัครอันดับ 3 ประกาศถอนตัวและหันมาสนับสนุน "ยุน ซอค-ยอล" แทน
ยุน ซอค-ยอล มีนโยบายที่แข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือ ประกาศว่า หากได้รับเลือก ก็พร้อมสั่งยิงโจมตีเกาหลีเหนือเพื่อปกป้องประเทศทันที หากเชื่อว่าเกาหลีเหนือกำลังจะโจมตีเกาหลีใต้
นอกจากนี้ ยังเสนอเปิดเจรจาถาวร 3 ฝ่าย ซึ่งมีแค่ 2 เกาหลีกับสหรัฐฯ แต่ไม่มีจีน พี่ใหญ่ของเกาหลีเหนือมานั่งคุยด้วย
ประเด็นนี้ ยุน ซอค-ยอล เคยประกาศไว้ชัดเจนว่า จะเลิกใช้นโยบายที่มุน แจ-อิน ทำเอาไว้ นั่นคือ การทำแบบกำกวม หรือเหยียบเรือสองแคม เลือกทั้งสหรัฐฯ และจีน โดยหลังได้เก้าอี้ผู้นำคนใหม่เขาจะหันไปซบอกสหรัฐฯ ฝ่ายเดียว
หนึ่งในนโยบายที่ล่อแหลมที่สุด คือ การเตรียมจัดซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศในบรรยากาศชั้นสูงจากสหรัฐฯ เพื่อใช้ยิงสกัดขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ซึ่งจีนคัดค้านเสียงแข็งมาโดยตลอด เนื่องจากกังวลว่า เรดาร์ระบบป้องกันภัยดังกล่าวอาจถูกนำมาใช้ติดตามความเคลื่อนไหวของการทดสอบขีปนาวุธในแผ่นดินจีนได้
นโยบายนี้จึงอาจกลายเป็นชนวนความขัดแย้งรอบใหม่ หลังจากเคยงัดข้อกันมาแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งนี่คือสาเหตุให้ยุน ซอค-ยอล ระบุว่า จะถือโอกาสนี้จัดวางความสัมพันธ์กับจีนเสียใหม่ หลังจากโจมตีรัฐบาลปัจจุบันว่า ทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นประเทศขี้ขลาดตาขาว
หลังจากนี้ อาจต้องจับตาดูต่อไปว่า ชะตาและทิศทางความสัมพันธ์บนคาบสมุทรเกาหลี นับจากนี้ไป 5 ปี จะเป็นอย่างไรภายใต้ผู้นำคนใหม่ของเกาหลีใต้ "ยุน ซอค-ยอล"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับตา "เกาหลีใต้" เปิดคูหาเลือกประธานาธิบดี คนที่ 20