วันนี้ (25 เม.ย.2565) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ตลาดเสรีมาร์เก็ต ห้างพาราไดซ์พบปะพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่เดินมาจับจ่ายซื้อของ
นายสุชัชวีร์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสกดดันให้กรรมการบริหารพรรคลาออกเพื่อสร้างความมั่นใจในนโยบายไม่คุกคามทางเพศว่า ตรงนี้เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคที่จะตัดสินใจแต่ยอมรับว่ากรณีที่เกิดขึ้นในกรณีของนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค ถือเป็นเรื่องที่สะเทือนใจทุกคน ซึ่งตนก็ตกใจและสะเทือนใจมาก และตนมีจุดยืนชัดเจนว่าต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศและความรุนแรงทุกรูปแบบและตั้งใจว่า หากเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าในหน่วยงาน กทม. ถ้ามีการล่วงละเมิดทางเพศไม่ว่าในระดับไหนจะถือเป็นความวินัยผิดร้ายแรง
ทั้งนี้ให้เริ่มที่ กทม.เป็นหน่วยงานแรกให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า ไม่ยอมเรื่องเหล่านี้ขณะเดียวกันตนเดินลงพื้นที่ทุกวันแสดงความมั่นใจให้พี่น้องประชาชนเห็นว่า หากเลือกคนเข้ามาทำงานจะได้เห็นผู้ว่าที่ทำงานหนักสุดๆ จริงๆ และไม่ท้อต่อเรื่องใดๆ ทั้งสิ้นจะเป็นตัวแทนในการดูแลความเรียบร้อยของ กทม. ให้ครบทุกมิติเปลี่ยนชีวิตคน กทม. หยุดปัญหาซ้ำๆ
คืนทางเท้าปลอดภัยให้คนเดินเท้า
นายสุชัชวีร์ ยังกล่าวถึงนโยบายให้ขายของบนบาทวิถีหรือทางเท้าว่า ต้นมีจุดยืนชัดเจนว่าคนเดินเท้าสำคัญที่สุดในพื้นที่ทางเท้า หากตนได้เป็น ผู้ว่าฯ กทม.ฟุตบาททางเท้าต้องเรียบสนิท ต้องสะอาด มีถังขยะ รองรับในพื้นที่ที่เหมาะสม และจะมีการบริการก๊อกน้ำประปาฟรีทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนรวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าได้ใช้เพื่อความสะดวกสามารถล้างมือได้
อย่างไรก็ตามกรุงเทพฯจะต้องอยู่กันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย จุดไหนที่สามารถให้ค้าขายได้ก็อนุโลมให้แต่พื้นที่ไหนที่ขายไม่ได้ เช่น บริเวณทางขึ้น-ลง ติดทางข้าม ไม่สามารถอนุญาตให้ขายได้ พร้อมกันนี้ยังมีนโยบายเรื่องความปลอดภัย มีอินเทอร์เน็ตฟรีทั่วกรุงเทพฯ wifi ฟรี 150,000 จุด จุดละ 1,000 เมกะวัตต์ ทำให้ CCTV ชัดเจน ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องรถเข็นอัจฉริยะว่าเป็นการนำผลงานลูกศิษย์มานำเสนอนั้น นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่มีลิขสิทธิ์อะไรและเป็นเรื่องที่ทุกคนคิดกันมานานแล้ว แต่ยังไม่มีใครกล้านำเสนอ ซึ่งตนตั้งใจจะเป็นผู้ว่ากทมที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน หากอะไรที่ทำแล้วทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้นก็อยากให้เปิดใจคิดสิ่งใหม่ๆ เพื่อทำกรุงเทพฯให้ดีขึ้น