วันนี้ (11 พ.ค.2565) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เพื่อเวทีการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา โดยเริ่มกำหนดการอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงค่ำ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเปิดทำเนียบขาว เลี้ยงอาหารค่ำ ต้อนรับผู้นำอาเซียนและผู้เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 13 พ.ค.2565
นอกเหนือ จากการร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ และแถลงวิสัยทัศน์ร่วมในมิติต่าง ๆ แล้ว นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม มีกำหนดการเปิดหารือ 2 ฝ่ายกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ด้วยนั้น
รศ.ปณิธาน วัฒนยากร ยอมรับว่า ไทยเลี่ยงไม่พ้นที่จะถูกจับตามองถึงการสร้างสมดุลย์กับมหาอำนาจ ไม่เพียงแต่กับสหรัฐฯ แต่จะรวมไปถึง "จีนและรัสเซีย" ด้วย จึงเป็นความท้าทายของไทย ที่ต้องรักษาระยะห่างคู่ขนานกับการสร้างสมดุลที่ชัดเจน ไม่ว่าจะในทางการทหารและเศรษฐกิจ และไม่ปฏิเสธว่า เวทีนี้จะเป็นใบเบิกทางความเชื่อมั่นให้ไทย ได้ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นำความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอล หรือ บิมสเทค และจัดประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก ประจำปี 2565
ขณะที่ ผศ.วิบูลย์พงศ์ พูนประสิทธิ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชื่อว่านัยต่าง ๆ ของสหรัฐฯ จะสะท้อนผ่านคำกล่าวของนายโจ ไบเดน ก่อนเริ่มประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ แม้แต่การโน้มน้าวให้อาเซียนร่วมคว่ำบาตรรัสเซีย จะด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชนและเรื่องการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมาย และมั่นใจด้วยว่า อาเซียนจะไม่ตอบรับท่าทีนี้ โดยเฉพาะไทย ด้วยเชื่อว่านายกรัฐมนตรี จะไม่ตกปาก-รับคำใด ๆ เว้นแต่ว่าการตอบรับที่เคารพกฎ-กติกาในฐานะสมาชิกอาเซียน ที่ต้องยืนยันให้ชัดเจน
ขณะที่นายเทพชัย หย่อง โพสต์เฟซบุ๊กว่า แม้จะมีข้อสังเกตถึงวาระซ่อนเร้นสหรัฐฯ ที่อาจจะระดมพันธมิตรในภูมิภาคนี้ เพื่อสกัดกั้นการแผ่อิทธิพลของจีน และการวิเคราะห์ถึงความพยายามผลักดันให้เกิด “นาโต” ฉบับเอเชียนั้น แต่หลังได้พูดคุยกับนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย กลับได้คำตอบว่า สงครามในยูเครน เป็นเครื่องเตือนใจถึงผลพวงของการแทรกแซงแล้ว พร้อมคำยืนยันว่า แม้จีนจะอยากให้ไทยเลือกข้าง แต่ก็เคารพการตัดสินใจและการกำหนดนโยบายต่างประเทศของไทย
เสนอนายกฯ ผลักดัน "ซอฟต์ เพาเวอร์" อาหารไทย
การเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังมีกำหนดการพบปะผู้แทนนักธุรกิจและหอการค้าสหรัฐฯ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและ กระชับความร่วมมือ รวมถึงพบปะกับชุมชนชาวไทยในสหรัฐฯ
คู่สามี-ภรรยา หนึ่งในผู้ประกอบการ ร้านอาหารไทยในกรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา เตรียมไปต้อนรับนายกรัฐมนตรี และขอความช่วยเหลือให้สนับสนุนธุรกิจร้านอาหารไทยเป็น Soft Power ที่โดดเด่นให้มีความเข้มแข็ง เพราะอาหารไทย มีคุณภาพดี รสชาติอร่อย และราคาถูก แต่ก็มีปัญหาเรื่องขาดแคลนแรงงาน และแรงงานไทยส่วนใหญ่เป็นแรงงานผิดกฎหมาย เพราะการขอวีซ่าจากประเทศไทย เพื่ออนุญาตให้มาทำงานที่สหรัฐฯ ยังมีข้อจำกัดและเงื่อนไขหลายประการที่เป็นอุปสรรค จึงขอให้รัฐบาลไทยช่วยสนับสนุนและแก้ไขปัญหา
ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในสหรัฐฯ ยังเปิดเผยว่า อาหารไทยที่ได้รับความนิยม และสามารถผลักดันให้เป็นซอฟต์ เพาเวอร์ ที่เข้มแข็งได้ นอกจากเมนูยอดฮิต อย่างผัดไทยกับแกงเขียวหวานแล้ว ยังมีผัดขี้เมาไก่ด้วย ส่วนขนมไทย ไม่ใช่แค่ข้าวเหนียวมะม่วง แต่ยังมี ขนมเบื้อง ที่ได้รับความนิยมมาก