ขณะที่ช่วงค่ำ ประธานาธิบดี "โจ ไบเดน" จะเปิดทำเนียบขาว ต้อนรับและเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ ผู้นำชาติอาเซียนและคณะ รวมถึงนายกรัฐมนตรีของไทยด้วย ที่จะเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษนี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงสหรัฐอเมริกาและเตรียมร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ โดยก่อนที่จะร่วมงานเลี้ยงต้อนรับผู้นำอาเซียนของ "โจ ไบเดน" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงค่ำวันนี้ที่ทำเนียบขาว พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ รมว.กลาโหม มีการหารือทวิภาคี กับนายลอยด์ เจมส์ ออสติน ที่ 3 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพื่อย้ำถึงความเป็นพันธมิตรและความร่วมมือทางการทหาร ซึ่งเป็นที่คาดว่า อาจยืนยันถึงแผนจัดซื้อเครื่องบินเอฟ-35 ของกองทัพอากาศด้วย
แหล่งข่าวในกองทัพอากาศยอมรับว่าเตรียมและส่งข้อมูลให้นายกรัฐมนตรีแล้ว แต่บอกไม่ได้ว่า จะหยิบขึ้นมาหารือกันหรือไม่ ด้วยผู้บัญชาการทหารอากาศ "ไทยและสหรัฐฯ" สรุปร่วมกันแล้ว หากจะหารือกันอีกครั้ง อาจต้องระมัดระวังเหตุที่จะไปกระทบต่อเหตุความขัดแย้ง "ยูเครน-รัสเซีย" ด้วย "จีนและรัสเซีย" ก็จับตาดูความเคลื่อนไหวของกองทัพไทยอยู่
สำหรับข้อมูลที่จัดเตรียมไว้ คือ รายงานการพิจารณาในชั้นกรรมการและข้อหารือต่าง ๆ ทั้งเรื่องกรอบเวลาไม่เกิน 20 เดือน เหตุที่ต้องรออนุมัติจากสภาครองเกรส รวมถึงการตรวจสอบความพร้อมในทุกมิติ แม้แต่สภาพความพร้อมของเครื่องบิน F-16 ที่ประจำการอยู่ ทั้งที่กองบิน 1 นครราชสีมาและกองบิน 4 นครสวรรค์ ตลอดจนราคาการจัดซื้อ ซึ่งตั้งเป็นงบฯผูกพัน 7,382 ล้านบาท โดยเริ่มที่ปี 2566 รวม 738 ล้านบาท
มีรายงานว่า วันที่นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับ 15 พ.ค.นี้ จะมีแถลงผลการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ และจากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ที่นำคณะไปร่วมการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนที่อินโดนีเซีย ด้วยข้อหารือเรื่องการจัดการ COVID-19 ไปจนถึงจัดการด้านสาธารณสุขเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม
ทั้งนี้ นายอนุทิน เตรียมแถลงแสดงมุมมองการสร้างระบบสุขภาพในระดับภูมิภาคอาเซียน การฟื้นตัวหลัง COVID-19 และการจัดตั้งศูนย์อาเซียน ด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ และยังมีการประชุมกับประเทศคู่เจรจา ทั้งรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน +3 คือจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลี, รัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน-สหรัฐฯ และการหารือแบบทวิภาคีกับรัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐฯ และสิงคโปร์