เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลข 1 ร่วมวางดอกไม้ไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต จากเหตุกราดยิงที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นคนผิวดำ
ผู้นำสหรัฐฯ ได้เดินทางไปพบปะกับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมกล่าวประณามเหตุกราดยิงครั้งนี้ว่าเป็นการก่อการร้ายในประเทศ พร้อมประณามแนวคิดเหยียดสีผิว เหยียดเชื้อชาติ โดยเฉพาะแนวคิดคนผิวขาวเป็นใหญ่ว่าถือเป็นยาพิษในสังคมอเมริกัน
ไปเดน กล่าวอีกว่า สิ่งที่ทำได้คือการกีดกันไม่ให้การหาซื้ออาวุธทำได้ง่ายดายทั่วไปตามท้องถนน เพราะเรื่องความเชื่อและความคิดไม่มีใครบังคับกันได้ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้น ผู้ก่อเหตุซื้อปืนไรเฟิลจากร้านในรัฐนิวยอร์กอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสืบสวนหาข้อมูลจากเอกสารคำแถลงความยาว 180 หน้า ที่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุวัย 18 ปีเป็นผู้เขียน มีเนื้อหาสอดคล้องกับทฤษฎีสมคบคิด ซึ่งเป็นที่แพร่หลายในหมู่ผู้คนชาตินิยมผิวขาว แนวคิดเหยียดเชื้อชาติ ต่อต้านผู้อพยพ ต่อต้านชาวยิว และระบุถึงเจตนาต้องการขับไล่คนที่ไม่ใช่คนเชื้อสายยุโรปออกจากสหรัฐฯ ทั้งหมด
ทฤษฎีสมคบคิดดังกล่าวคือ The Great Replacement หรือการแทนที่ครั้งใหญ่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาแนวคิดฝ่ายขวา อธิบายว่า เป็นความเชื่อว่าประชากรผิวขาวทั้งในอเมริกาเหนือและในยุโรป จะถูกแทนที่โดยประชากรกลุ่มน้อยต่างๆ ผ่านการอพยพย้ายถิ่น โดยมองถึงเรื่องอำนาจ สวัสดิการและสิทธิต่างๆ ว่าหากกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ได้รับสิทธิเท่าเทียมกับคนผิวขาว นั่นคือการเอาสิ่งที่ควรจะเป็นของคนผิวขาวไปให้แก่คนผิวสีอื่น ไม่ใช่เฉพาะแค่กับคนผิวดำ รวมถึงเอเชีย ตะวันออกกลาง หรือกระทั่งชาวยิว
ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สถิติการก่อเหตุโจมตีโดยมีสาเหตุมาจากการเหยียดเชื้อชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในสหรัฐฯ โดยเฉพาะช่วงหลังการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้เกิดกระแสเกลียดชังชาวเอเชียมากขึ้น
ที่มา : AP, Reuters
อ่านข่าวอื่นๆ
กราดยิงในซูเปอร์มาร์เก็ตรัฐนิวยอร์ก เสียชีวิต 9 คน
จับชายวัย 60 ปี กราดยิงภายในโบสถ์ของสหรัฐฯ เสียชีวิต 1 คน