วันนี้ (20 พ.ค.2565) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ โดยระบุว่า ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง จากเดิมต้องกักตัวเอง 5 วัน จึงจะไปทำงานได้ แต่ล่าสุด เปลี่ยนเแนวจัดการ โดยให้สังเกตอาการตนเอง 10 วัน โดยไม่ต้องกักตัว และให้ตรวจ ATK เมื่อมีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจ
นอกจากนี้ ศบค.ยังได้ปรับระดับพื้นที่สี โดย 1 มิ.ย.นี้ พื้นที่เฝ้าระวังสูง สีเหลือ ลดจาก 65 เป็น 46 จังหวัด ส่วน พื้นที่เฝ้าระวัง หรือพื้นที่สีเขียว เป็น 14 จังหวัด และจะเพิ่มพื้นที่สีฟ้า นำร่องท่องเที่ยวจาก 12 เป็น 17 จังหวัด ขณะเดียวกันจังหวัดอื่นดำเนินการบางพื้นที่ 16 เป็น 12 จังหวัด
ทั้งนี้ มาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่สีเหลือง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 1,000 คน ให้ใช้อาคารสถานที่จัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ ภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่ราชการกำหนด และเปิดบริการสถานที่เล่นกีฬา สนามกีฬา สระว่ายน้ำ หรือสถานที่จัดการแข่งขันได้ตามเวลาปกติ แต่จัดการแข่งขันได้โดยจำกัดผู้ชม กีฬาในร่วม ผู้ชมไม่เกิน 75% กีฬากลางแจ้งผู้ชมตามความจุสนาม และต้องมีมาตรการเว้นระยะห่าง
ขณะที่พื้นที่สีเขียวและสีฟ้าจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ และตามความเหมาะสม สำหรับโรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน เปิดดำเนินการได้ตามปกติ
ส่วนสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบ อบ นวด หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน สามารถเปิดดำเนินการได้ในพื้นที่สีเขียว และสีฟ้า ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.นี้ โดยให้บริการไม่เกิน 24.00 น. จำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย พนักงาน นักร้อง นักดนตรีต้องได้รับวัคซีนครบโดส และต้องตรวจคัดกรองพนักงานทุกวัน และตรวจ ATK ทุก 7 วัน หรือเมื่อมีอาการ
มาตรการสำหรับสถานประกอบการ ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. ทำการประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai stop COVID 2+ และปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting
ทั้งนี้ อนุญาตให้เปิดบริการเฉพาะสถานบันเทิงที่ขึ้นทะเบียนสถานบริการ/สถานประกอบการและได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. โดยต้องจัดพื้นที่ให้บริการเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ อย่างน้อย 1 เมตร หรือตามมาตรการราชการกำหนด มีการระบายอากาศได้ดี ส่วนอาคารปิดควรเปิดพัดลมระบายอากาศตลอดเวลา