วันนี้ (20 พ.ค.2565) นายโอฬาร ถิ่นบางเตียว ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า จากการประเมินจากโพลและการเก็บข้อมูลเอง เชื่อว่าคะแนนจะไม่พลิกโผไปมากกว่านี้ ผู้ที่มีคะแนนนิยมนำอยู่ จะคว้าชัยชนะได้ ซึ่งยุทธศาสตร์ "ไม่เลือกเรา เขามาแน่" ใช้ไม่ได้แล้วในยุคปัจจุบันที่มีกลุ่มย่อยหลากหลายกลุ่ม
การเลือกตั้งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นการสู้ 2 ขั้วชัดเจน 1 ต่อ 1 ระหว่าง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร กับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ แต่ครั้งนี้ แม้จะยังมี 2 ขั้วเหมือนเดิม แต่ขั้วหนึ่งแตกตัวเองออกเป็น 4 กลุ่มย่อย คิดว่ายุทธศาสตร์ดังกล่าวเหล่าบรรดาแกนนำน่าจะไม่ร่วมด้วย
นายโอฬาร ระบุว่า การเลือกผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ สะท้อนถึงภาพความขัดแย้งในการเมืองไทยได้อย่างชัดเจน คือแบ่งออกเป็น 2 ขั้วใหญ่ และใน 2 ขั้วนี้ ยังแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มย่อยที่สะท้อนกลุ่มพลังทางการเมืองต่าง ๆ
ทั้งฝ่ายประชาธิปไตย หรือ ฝ่ายเสรีนิยม อย่างเพื่อไทย กับ ก้าวไกล หรือ กลุ่มชัชชาติ กลุ่มวิโรจน์ ขณะที่กลุ่มอนุรักษ์นิยม คือ ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ กปปส. และพันธมิตร
ความน่าสนใจของการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่เป็นตัวแทนของพลังทางการเมืองของกลุ่มต่าง ๆ ข้างต้น มันเป็นการพิสูจน์ว่า ปัจจุบันแต่ละกลุ่มนั้น มีคะแนนจริง ๆ แค่ไหนอย่างไร ซึ่งคะแนนที่ออกมาก็จะมีผลกับการเลือกตั้งทั่วไป
การเลือกตั้งท้องถิ่น เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างการเมืองระดับชาติ ตามหลักการแล้วเป็นการฝึกให้นักการเมืองท้องถิ่นคิดแก้ปัญหาในเชิงนโยบายสำหรับประชาชน เมื่อเข้าใจกระบวนการทำงานในท้องถิ่นแล้ว เมื่อต้องทำงานระดับชาติก็จะทำงานสอดคล้องกันได้ง่ายขึ้น
กลยุทธ์ "เพื่อไทย" หวังผลเลือกตั้งทั่วไป
นายโอฬาร วิเคราะห์การลงสมัคร ส.ก.ของพรรคเพื่อไทยว่า พรรคเพื่อไทยมีบทเรียนบางอย่างกับสังคมกรุงเทพฯ พรรคนี้ถูกลากโยงในเงื่อนไขความขัดแย้งมาโดยตลอด ด้วยภาพจำแบบนี้ ทำให้พรรคต้องประเมินอยู่ตลอดเวลากับสถานการณ์ความรู้สึกกับคนกรุงเทพฯ ดังนั้น ส.ก.เพื่อไทยจึงต้องประเมินและวัดดวงอีกรอบว่า ขณะนี้ความเป็นเพื่อไทยขายในกรุงเทพฯ ได้หรือยัง และภาพจำเดิม ๆ เลือนลางไปหรือยัง
สำหรับ "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร ที่ลงพื้นที่ช่วย ส.ก.หาเสียง รศ.โอฬาร มองว่า เป็นการประเมินคะแนนนิยมของพรรคและเป็นการวางยุทธศาสตร์เพื่อเตรียมพร้อมเลือกตั้งครั้งหน้า อีกทั้ง ยังเป็นจุดเติมเต็มให้กับคนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบแนวทางของเพื่อไทย