วันนี้ (21 พ.ค.2565) นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบกับชาวพัทยาทั้ง 42 ชุมชน และ การปราศรัยใหญ่อีก 4 ครั้งทั่วเมืองพัทยา รวมถึงนาเกลือและเกาะล้าน เข้าใจ เข้าถึง สร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชนทุกเขตเลือกตั้ง ทั้งชุมชน ประมงพื้นบ้าน พ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร สถานบันเทิง โรงแรม รีสอร์ต ธุรกิจบริการต่างๆ และกลุ่ม LGBT ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการเห็นพัทยาก้าวไปสู่อนาคตที่ดีขึ้น
หากตนได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยาเบอร์ 1-6 ก็พร้อมลุยนโยบาย “Better Pattaya ต่อยอด ต่อเนื่อง เพื่อเมืองพัทยาที่ดีขึ้น” ได้ทันที
ทีมเรารักพัทยา มั่นใจศักยภาพ วิสัยทัศน์ และความพร้อมของผู้สมัครทุกคน ร่วมผลักดันนโยบายเร่งด่วน นั่นคือการยกระดับเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และคุณภาพชีวิตที่ดี ให้คนเมืองพัทยาทุกคน
ไม่ว่าท่านจะมีทะเบียนบ้านอยู่พัทยา เข้ามาทำงาน หรือชาวต่างชาติที่พักอาศัยที่นี่ ตนเชื่อว่าพัทยาก็คือบ้านของเราทุกคน พร้อมดูแลให้พัทยาเป็นเมืองนานาชาติ ที่น่าอยู่ และจากการลงพื้นที่ตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เสียงตอบรับดีมาก ประชาชนมั่นใจประสบการณ์ ความเป็นมืออาชีพ พร้อมเปิดโอกาสทีมเรารักพัทยาในการเลือกตั้งวันที่ 22 พ.ค.นี้
นายปรเมศวร์ กล่าวอีกว่า ล่าสุด ศบค. เห็นชอบการเปิดสถานบริการผับ บาร์ คาราโอเกะตั้งแต่ 1 มิ.ย.นี้ และเปิดการเดินทางให้ต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว จะส่งผลดีต่อเมืองพัทยาแน่นอน เพราะนโยบายของทีมเรารักพัทยา ที่ต้องการ ต่อยอด ต่อเนื่องเพิ่มอีเวนต์ส่งเสริมท่องเที่ยว การขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เช่น การประชุมสัมมนาอปท.ทั่วประเทศ ผลักดันการขยายโซนนิ่งและขยายเวลาการเปิดสถานบริการ ให้สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจเพราะพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวทำรายได้ถึงกว่า 3 แสนล้านบาท
นอกจากนี้จะเพิ่มแลนด์มาร์คใหม่ เปิดตลาดคนไทยและต่างชาติ มาพัทยาแล้วต้องได้ชื่นชมตั้งแต่ท้องทะเล จนถึง ท้องถิ่น เช่น ตลาดลานโพธิ์-นาเกลือ เราจะยกระดับเป็นซีฟู้ดมาร์เก็ตขนาดใหญ่ มีที่จอดรถ 239 คัน ซื้ออาหารสดพร้อมปรุงเสร็จ ส่งเสริมตลาดสร้างมูลค่าเพิ่ม
เปิดเส้นทางวัฒนธรรม สะพานไม้เดินชมธรรมชาติป่าชายเลนผืนสุดท้าย ที่สวยงามของอ่าวนาเกลือ ปรับปรุงสวนสาธารณะเพื่อสุขภาพและพื้นที่ให้เด็กรุ่นใหม่ออกกำลังกาย เป็นจุดขายการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เต็มรูปแบบ
“การพัฒนาพื้นที่ลานโพธิ์-นาเกลือนั้น ผู้ประกอบการเดิมจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเรามีการวางแผนบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ช่วยสร้างเงินสะพัด สร้างอาชีพ สร้างรายได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุด”
สำหรับนโยบายเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี เมืองพัทยาอยู่แล้วทุกคนในครอบครัวมีความสุข ยกตัวอย่าง เรื่องการศึกษา การพัฒนาศักยภาพคนรุ่นใหม่ ปรับปรุงโรงเรียนเมืองพัทยาซึ่งมีนักเรียน 1.5 หมื่นคน พัฒนาหลักสูตรเรียนรู้อาชีพที่ตอบโจทย์โลกอนาคต เช่น STEM และ Coding มีเวทีให้แสดงออก และล่าสุดบริการรถโรงเรียนฟรีของเมืองพัทยากลับมาเริ่มให้บริการ 23 พ.ค.นี้
นอกจากนี้ในเรื่องคุณภาพชีวิตด้านสาธารณสุข นโยบาย “หมอถึงบ้าน พยาบาลถึงเรือน” เป็นการแพทย์เชิงรุกดูแลผู้ป่วยติดเตียง การเพิ่มศูนย์ไตเทียม เส้นทางฟุตบาทที่รองรับรถเข็นผู้พิการที่ดีที่สุด ซึ่งนอกจากจะสอดคล้องกับสังคมผู้สูงวัยแล้ว ยังจะช่วยกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มผู้พิการจากทั่วโลกได้อีกด้วย