เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ตอบคำถามผู้สื่อข่าวสั้น ๆ ระหว่างอยู่ที่ฐานทัพอากาศในเกาหลีใต้ ระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับระดับความเสี่ยงการสัมผัสเชื้อฝีดาษลิง แต่มองว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนควรใส่ใจ ซึ่งสถานการณ์อาจจะน่ากังวลขึ้น หากฝีดาษลิงระบาดจริงก็จะก่อผลกระทบได้
ขณะเดียวกัน Jake Sullivan ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ มีวัคซีนซึ่งใช้ป้องกันโรคนี้ได้อยู่ในคลัง พร้อมใช้งานสำหรับกลุ่มเสี่ยงสูงที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ชื่อว่า วัคซีน Jynneos มีประมาณ 1,000 โดส สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) รับรองใช้งานเป็นวัคซีนไข้ทรพิษหรือฝีดาษลิง
ด้าน Karl Lauterbach รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนีและนักระบาดวิทยา ระบุว่า การระบาดของฝีดาษลิงที่พบกระจายในหลายประเทศนับว่าไม่ปกติจนเป็นเหตุอันน่าวิตก ดังนั้น ต้องพิจารณาถึงความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นกับไวรัสตัวนี้ และต้องเร่งหาทางจำกัดการระบาดทั่วโลก พร้อมทั้งแนะคนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงให้สังเกตอาการตัวเอง ทั้งความเปลี่ยนแปลงบนผิวหนังเนื้อตัว และอย่าละเลยอาการไข้
อนามัยโลกยืนยันควบคุมสถานการณ์ "ฝีดาษลิง" ได้
ขณะที่สถานการณ์ในสหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงเพิ่ม 37 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมเป็น 57 คน ขณะที่สกอตแลนด์พบผู้ติดเชื้อคนแรกซึ่งกำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล รายงานข่าวระบุว่า อาการไม่ได้ป่วยหนัก แต่เป็นการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดในหน่วยโรคติดเชื้อพิเศษ
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก เปิดเผยว่า การระบาดเกิดจากการสัมผัสถูกตัวกันโดยตรง และผู้ติดเชื้อส่วนมากที่พบมีอาการเพียงเล็กน้อย ทั้งยังไม่พบหลักฐานว่าไวรัสที่ก่อโรคฝีดาษลิงเกิดการกลายพันธุ์ และย้ำว่าฝีดาษลิงไม่เหมือน COVID-19 การระบาดต่างกัน และการควบคุมโรคก็ต่างกัน
แม้ขณะนี้พบฝีดาษลิงระบาดใน 16 ประเทศนอกทวีปแอฟริกาแล้ว โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 100 คน ในทวีปยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย รวมทั้งคาดว่าจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก แต่ที่พบยังเป็นสายพันธุ์แอฟริกาตะวันตกซึ่งรุนแรงน้อยกว่าอยู่
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก ระบุว่า จะควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมยืนยันว่า ต้องยับยั้งการระบาดจากคนสู่คน และสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ในประเทศที่ฝีดาษลิงไม่ใช่โรคประจำถิ่น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อังกฤษยืนยัน "ฝีดาษลิง" ระบาดในประเทศ แต่ความเสี่ยงยังต่ำ
"ฝีดาษลิง" พบติดเชื้อแล้วกว่า 100 คน ใน 15 ประเทศ
อนามัยโลกพบผู้ติดเชื้อ "ฝีดาษลิง" 80 คน ใน 12 ประเทศ