วันนี้ ( 7 มิ.ย.2565) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวถึงความคืบหน้าของการรณรงค์แคมเปญ “ขอคนละชื่อปลดล็อกท้องถิ่น” เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น ว่า ขณะนี้มีประชาชนร่วมลงชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อปลดล็อกท้องถิ่นเฉพาะในช่องทางออนไลน์มากกว่า 50,000 รายชื่อแล้ว เป็นไปตามจำนวนขั้นต่ำของการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตามมาตรา 256 รัฐธรรมนูญ 2560
หลังจากนี้ คณะก้าวหน้าจะเดินหน้ารณรงค์อย่างต่อเนื่องเพื่อรวบรวมรายชื่อของประชาชนให้ได้มากที่สุด ก่อนจะปิดรับรายชื่อในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 อย่างเป็นทางการ เพื่อเตรียมความพร้อมไปสู่ขั้นตอนการตรวจสอบและสรุปจำนวนรายชื่อเพื่อนำส่งรัฐสภาต่อไป คาดว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะถูกบรรจุเข้าสู่วาระพิจารณาในสภาทันสมัยประชุมนี้
นายปิยบุตร กล่าวว่า การแสดงพลังของประชาชนครั้งนี้ สะท้อนถึงความต้องการการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้าง เพราะเห็นปัญหามากขึ้นเรื่อย ๆ ว่ารัฐราชการรวมศูนย์เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ ทำให้ท้องถิ่นถูกกดทับทั้งที่มีศักยภาพ เรามีนายกฯท้องถิ่นมีฝีมือ ขยัน มีวิสัยทัศน์อยู่มากพอสมควร เพียงแต่ติดล็อกเรื่องไม่มีอำนาจมากพอ อำนาจหลายเรื่องเป็นของกระทรวง กรม งบประมาณและบุคลากรก็น้อย ทำให้ไม่สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่
นายปิยบุตร ระบุว่า การกระจายอำนาจเพื่อคืนอำนาจให้ท้องถิ่นและยุติรัฐราชการรวมศูนย์ จึงเป็นกุญแจดอกเดียวที่จะปลดล็อกปัญหา ไม่ใช่แค่รับประกันว่าผู้บริหารท้องถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้งแต่ยังทำให้ท้องถิ่นมีอำนาจเต็มในการจัดทำบริการสาธารณะในพื้นที่ทุกเรื่องยกเว้นแค่เรื่องกองทัพ เงินตรา งานต่างประเทศ การตัดอำนาจซ้ำซ้อนที่ผู้ว่า นายอำเภอ ที่มาจากกระทรวงมหาดไทย และอำนาจของกรมต่างๆ ที่ขี่คอนายกท้องถิ่นออกไป เพิ่มรายได้ท้องถิ่น
ส่วนกลางสั่งการท้องถิ่นไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น ท้องถิ่นจะมีงบประมาณและมีอิสระมากขึ้นในการจัดทำบริการสาธารณะตอบสนองความต้องการของประชาชน ศักยภาพที่ถูกกดทับอยู่ในพื้นที่ต่างๆ จะถูกระเบิดพลังออกมา เปรียบเหมือนยกก้อนหินที่กดทับ 77 จังหวัดไว้ แล้วเราจะเห็นดอกไม้หลากสีบานสะพรั่งทั่วประเทศ ประเทศไทยจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าอีกมาก
นายปิยบุตร ยังกล่าวด้วยว่า เท่าที่สำรวจตรวจสอบความเห็นของแต่ละพรรคการเมืองในเรื่องการกระจายอำนาจ แทบทุกพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ต่างประกาศสนับสนุนการกระจายอำนาจ สมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ก็อภิปรายสนับสนุนการกระจายอำนาจมาโดยตลอด ตนจึงไม่เห็นเหตุผลใดเลยที่ร่างนี้จะถูกขัดขวาง และเชื่อว่าการเฝ้าจับตาจากประชาชนจะช่วยกระตุ้นให้การขับเคลื่อนเรื่องนี้เกิดขึ้นได้จริง