วันนี้ (7 มิ.ย.2565) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส สำรวจโรงเพาะต้นกัญชา อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ซึ่งเตรียมจัดงานเทศกาลดอกกัญชงกัญชาบาน โดยตั้งใจทำเป็นศูนย์เรียนรู้การปลูกกัญชา
ผู้ประกอบการเชื่อว่า 2 ปีนี้ธุรกิจกัญชาจะแข่งกันดุเดือน เพราะปัจจุบันมีโรงสกัดที่มีใบอนุญาตไม่มาก แต่หลังจากนี้จะมีคนเข้าสู่ธุรกิจมากขึ้น เพราะกัญชาเพิ่มมูลค่าได้สูง ขณะที่บริษัทนี้เตรียมส่งออกกัญชาไปญี่ปุ่น และเชื่อว่า 2 ปีนี้จะมีเม็ดเงินในธุรกิจกัญชาไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท
ขณะที่ฟาร์มแห่งหนึ่งใน อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เดิมปลูกกัญชง มีรายได้ดีกิโลกรัมละ 7,000-8,000 บาท เมื่อปลดล็อกกัญชาจึงเตรียมหันมาปลูกกัญชา เพราะมีราคาสูงกว่า 8-10 เท่า นอกจากนี้ยังพัฒนาปุ๋ยสำหรับกัญชง-กัญชา เพื่อรองรับการปลดล็อกกัญชา เพราะเชื่อว่ามีคนสนใจปลูกมาก ขณะนี้มียอดสั่งซื้อปุ๋ยเข้ามาต่อเนื่อง
ส่วนที่ จ.ราชบุรี บริษัทที่ทำธุรกิจกัญชงครบวงจร ตั้งแต่ปลูก สกัดและแปรรูป เตรียมขยายกิจการลงทุนครบวงจรกว่า 200 ล้านบาท ตั้งเป้าขยายเครือข่าย 5,000 ไร่ โดยจะปลูกแบบเปิดบนเนื้อที่ 200 ไร่ และใช้เมล็ดพันธุ์นำเข้าจากต่างประเทศ เพราะเชื่อว่าการปลูกแบบนี้ลดต้นทุนได้มากกว่าการปลูกในโรงเรือน
เกษตรกรผู้ปลูกกัญชงกัญชา ระบุว่า ผู้ทำธุรกิจนี้ต้องศึกษาต้นทุน วิธีปลูกและดูตลาดไว้ให้ดี เพราะต้นทุนสูง ที่สำคัญขณะนี้เริ่มมีผู้แอบอ้างเป็นตัวแทนของบริษัท ชักชวนให้ชาวบ้านทำเกษตรพันธสัญญา แต่สุดท้ายไม่มีบริษัทนี้จริง
ขณะที่บริษัทแห่งหนึ่งที่พัทยา ซึ่งใช้กัญชาในการรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาล เชื่อว่า การปลดล็อกกัญชาจะยิ่งกระตุ้นให้พืชชนิดนี้มีบทบาททางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฉพาะการแพทย์และสุขภาพ
อ่านข่าวอื่นๆ
รายงานพิเศษ : เมื่อ “กัญชา” ไม่ผิดกฎหมาย
เช็กเงื่อนไขนำเข้าเมล็ดพันธุ์ "กัญชา-กัญชง-กระท่อม" ห้าม GMO
สมาคมจิตแพทย์ฯแนะรัฐบาลจำกัดกลุ่มเปราะบางเข้าถึง "กัญชา"