ลิเวอร์พูล รองแชมป์พรีเมียร์ ลีก ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าได้บรรลุข้อตกลงคว้าตัว "ดาร์วิน นูเญซ" ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย จากสโมสร เบนฟิก้า ในโปรตุเกส เป็นที่เรียบร้อย หลังยอมจ่ายเงินจำนวน 85.4 ล้านปอนด์ นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 25 ล้านยูโร หากนูเญซ ทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่ตกลงกันไว้
ตอนนี้ นูเญซ วัย 22 ปี เป็นนักเตะค่าตัวแพงสุดของลิเวอร์พูลทำลายสถิติ 75 ล้านปอนด์ ของ เวอร์จิล ฟานไดจ์ค ตอนที่ย้ายจากเซาท์แธมป์ตันมาในปี 2018
ฤดูกาลที่ผ่านมา นูเญซยิงให้เบนฟิก้าไปทั้งหมด 34 ประตู ซึ่งเข้าตาคล็อปป์ ที่เล็งไว้แล้ว และเริ่มการพูดคุยกัน ตั้งแต่ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะนัดที่เบนฟิก้า บุกมาเสมอลิเวอร์พูล 3-3 ในแอนฟิลด์ นัดที่ 2 คล็อปป์ และ ฟานไดจ์ค มีส่วนอย่างมากในการโน้มน้าวให้ นูเญซ มาร่วมทีม
การย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล ในครั้งนี้ ส่งผลให้ นูเญซ ติดอันดับนักเตะค่าตัวแพงที่มาเล่นในเวทีพรีเมียร์ ลีก โดยเขาอยู่ในอันดับที่ 5 เป็นรองนักเตะในแนวรุกคนอื่น ๆ ทั้ง กรีลิช ลูกากู หรือ ป็อกปา ซึ่งอันดับนี้เป็นการวัดอัตราค่าตัวแบบยังไม่รวมออฟชั่นเสริมพิเศษ ซึ่งคาดว่า ถ้ารวมปัจจัยนี้ ค่าตัวของนูเญซ อาจขึ้นไปติดท็อปทรี อย่างแน่นอน
นอกจาก ลิเวอร์พูลที่เสริมกองหน้าแล้ว เมื่อวานนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ ลีก เปิดตัว เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ หลังย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัวประมาณ 60 ล้านยูโร หรือประมาณ 2,200 ล้านบาท โดยเซ็นสัญญาเป็นสมาชิกของทีม เรือใบสีฟ้าไปจนถึงปี 2027 ทำให้ขณะนี้ กองหน้าทั้งสองคนถูกสื่อในต่างประเทศนำมาเปรียบเทียบกันถึงคุณภาพ ว่าใครจะฉายแววได้ดีกว่ากันในพรีเมียร์ ฤดูกาลหน้า
เมื่อประเมินจากตัวเลขที่ได้มีการวิเคราะห์กันมา จะเห็นได้ว่า ฮาแลนด์ เหมือนจะดีกว่าเล็กน้อย หากเทียบกันเรื่องของจำนวนนัดที่ลงสนาม และประตูที่ทำได้ แต่ฮาแลนด์ เป็นนักเตะที่เป็นกองหน้าตัวเป้า เขาถนัดการเล่นมิติเดียวคือการเข้าฮอสทำประตู
ขณะที่ นูเญซ เป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ เขาสามารถเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าที่คอยจบสกอร์ได้ หรือจะขยับออกไปเป็นปีก ก็ทำได้ดีเช่นกัน หรือ ถ้า เยอร์เก้น คล็อปป์ จะสลับแนวรุกให้ นูเญซ ไปเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก เขาก็พร้อมจะเล่นในตำแหน่งดังกล่าวได้เช่นกัน