กอ.รมน.เร่งคดี "วิลาวัลย์" รุกเขาใหญ่ ลุยต่อฟอกป่าออกโฉนด

กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ และพวกรวม 10 คนออกโฉนดบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในเขตจ.ปราจีนบุรี 

วันนี้ (15 มิ.ย.2565) พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์การประสานการปฏิบัติ (ศปป.) ที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ชุดจับกุมดำเนินคดีนายสุนทร และนางกนกวรรณ กับพวกกรณีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ที่จับกุมเคยตรวจยึดไว้ในปี 2560 และ 2563 เพื่อติดตามการดำเนินคดีว่าอยู่ในขั้นตอนไหน ซึ่งก่อนหน้านี้กรมอุทยานฯ มีการแจ้งดำเนินคดีไปแล้ว

 

สำหรับกรณีที่ทาง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด แต่พบว่าเจ้าของที่ดินยังครอบครองโฉนดไว้ เพราะยังไม่มีการ สั่งเพิกถอนจากกรมที่ดิน เป็นคนละแปลงกับที่ตรวจยึดในปี 2563 ทางกอ.รมน.จะเร่งสอบถามพนักงานสอบสวนว่ามีการส่งข้อมูลให้กับทางป.ป.ช.เพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งจากการเข้าตรวจวันนี้พบว่าสภาพพื้นที่เปลี่ยนแปลงจากที่เคยถูดเปิดหน้าดิน เริ่มมีต้นไม้ขึ้น และไม่พบการบุกรุกใหม่

สำหรับที่ดินบุกรุกเขาใหญ่ 7 แปลง 24 ไร่ ที่มีการตรวจยึดไว้แบ่งเป็นปี 2563 มีการเข้าตรวจยึดไว้ 2 ครั้ง คือในวันที่ 17 ม.ค.2563 จำนวน 6 แปลง 11 ไร่  และอีกคดีวันที่ 20 ม.ค.2563 อีก 1 แปลง จำนวน 12 ไร่ รวมพื้นที่ 7 แปลง 24 ไร่  

พบฟอกป่าเขาใหญ่ออกโฉนด 

พ.อ.พงษ์เพชร กล่าวว่า ปัญหาการบุกรุกพื้นที่รอบเขาใหญ่ มีทั้งฝั่งปราจีนบุรี นครนายก และนครราช สีมา ต้องขึ้นกับกรมอุทยานฯ ในการตรวจยึด เพราะกอ.รมน.ส่งสัญญาณไปแล้วตั้งแต่ปี 2563 พร้อมให้การช่วยเหลือเต็มที่และทวงคืนผืนป่า และเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะหยุดยั้งการบุกรุกเพิ่ม และของเก่าที่มีปัญหาบุกรุก ในการฟอกป่าให้กลายเป็นพื้นที่ดินที่ถูกกฎหมาย มีขบวนการที่ทำโดยลำพังไม่ได้ 

ทาง กอ.รมน.เน้นเรื่องตัดวงจรการบุกรุกใหม่ จะต้องหยุดให้ได้ ซึ่งกรณีที่มีกระบวนการฟอกป่า มีวางแผน และมีคนที่เกี่ยวข้องหลายส่วนรวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ การแก้ปัญหาถ้ามีหน่วยงานมากกว่า 2 หน่วยงานขึ้นไปต้องใช้หน่วยงานกลาง 

เมื่อถามว่ามีตัวเลขการบุกรุกนับ 10,000 ไร่จริงหรือไม่ พ.อ.พงษ์เพชร กล่าวว่า เป็นตัวเลขที่มีการพูดคุยกับอดีตชุดหัวหน้าพญาเสือ และเจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจสอบพื้นที่บุกรุกในพื้นที่รอบเขาใหญ่ เบื้องต้นประมาณการณ์แบบนี้ เพราะพื้นที่รอบเขาใหญ่มีลักษณะนี้เยอะคือนำที่ดินป่าไปออกโฉนดโดยมิชอบ และทางอุทยานฯกำลังรีเช็กข้อมูลการบุกรุกใหม่อีกครั้ง

มีรายงานว่า ในระหว่างการลงพื้นที่ตรวจสอบ พ.อ.พงษ์เพชร ได้มีการสอบถามไปยังตำรวจ สภ.ปรา จีนบุรี เบื้องต้นยืนยันว่าคดีปี 2563 อยู่ในชั้นอัยการสูงสุดทั้ง 2 คดี ยังไม่ได้ส่งเรื่องให้กับ ป.ป.ช.ซึ่งพบการบุกรุกที่ดินเพิ่มเติมจากแปลงของนางกนกวรรณ 

สภาพป่าเริ่มฟื้นคืนสภาพ-ไม่พบบุกรุกเพิ่ม

ขณะที่จากการบินโดรนสำรวจสภาพพื้นที่แปลง ที่มีการตรวจยึดบุกรุกในปี 2563 ที่เคยพบมีการเปิดหน้าดินไถปรับพื้นที่ลาดเชิงเขา พบสภาพป่าเริ่มฟื้นตัว แต่ยังคงมีร่องรอยการเปิดหน้าดินชัดเจน แต่ไม่พบร่องรอยการบุกรุกเพิ่ม

ด้านนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยืนยันว่ากรมอุทยานฯ แจ้งความดำเนินคดีต่อนายสุนทร และพวก คดีบุกรุกป่าไปตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.2563 โดยเป็นคดีอาญาหมายเลข 51/2563 ที่ สภ.ปราจีนบุรี จึงไม่ต้องไปแจ้งซ้ำอีก และตอนนี้อยู่ในชั้นอัยการสูงสุด แล้ว

 

สำหรับกรณีการออกโฉนดที่ดินในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พบออกเป็นโฉนดเมื่อปี 2546 โดยเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน เมื่อเข้าไปดูในรายละเอียดพบว่าการออกโฉนดดังกล่าวเป็นที่ดินมือแรก มีนายสุนทร และนางกนกวรรณ เป็นผู้เดินนำชี้ เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ซึ่งคดีการออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบนั้นเป็นคดีอาญา

โดยที่ดินแปลงนี้ อยู่ติดกับถนนเส้นทางขึ้นเขาใหญ่ ฝั่งปราจีนบุรี มีป้ายบอกทางไปห้วยปล่องไม้อย่างชัดเจน แปลงแรกเป็นชื่อของ นางกนกวรรณ 30 ไร่ส่วนแปลงที่ 2 เป็นชื่อของ นายสุนทร 27 ไร่ และแปลงสุดท้ายแปลงที่ 3 เป็นชื่อของน.ส.น้อย ตุ้มพันธ์ 27 ไร่

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจ้งจับ "นักการเมืองดัง" ปราจีนบุรี งาบป่าเขาใหญ่ 

กางที่ดิน! "สุนทร-กนกวรรณ วิลาวัลย์" ริมทางขึ้นเขาใหญ่

"กนกวรรณ" ไม่ต้องลาออก- จี้กรมที่ดินเพิกถอนโฉนดในเขาใหญ่