วันนี้ (17 มิ.ย.2565) รศ.เจษฎ์ โทณวณิก คณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย กล่าวถึงกรณีคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ให้ภรรยาและทายาท ของนายสมัคร สุนทรเวช อดีต ผู้ว่าฯ กทม. ชดใช้ค่าเสียหาย 587 ล้านบาทให้กับ กทม.กรณีทุจริตจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง มูลค่า 6,600 ล้านบาท
ซึ่งหลายคนมีข้อสงสัยว่า ภรรยาและทายาทของนายสมัครต้องชดใช้อย่างไร ทรัพย์สินส่วนตัวของลูกต้องต้องนำไปชดใช้ด้วยหรือไม่
รศ.เจษฎ์ ระบุว่า กรณีนายสมัคร ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว กฎหมายกำหนดไว้ว่า กรณีที่เป็นหนี้เงินที่เกิดจากความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ หรือเกิดจากการทุจริตผลจะต้องตกไปอยู่ที่ทายาทกองมรดก ในกรณีนี้ทายาทจึงต้องชดใช้เงินจำนวน 587 ล้านบาท
ทรัพย์สินที่ภรรยาและทายาทต้องชดใช้ เป็นเฉพาะทรัพย์สินกองมรดกที่นายสมัครยกให้ ทรัพย์สินส่วนตัวที่ทายาทซื้อด้วยเงินของตัวเอง ไม่เกี่ยวข้อง ขณะที่ทรัพย์ของภรรยา อาจจะต้องมาดูว่าทรัพย์สินนั้น เป็นสินสมรสหรือไม่ ถ้าเป็นสินสมรสต้องแบ่งครึ่งหนึ่งให้นายสมัคร ซึ่งจะอยู่ในค่ายของการบังคับคดี
นายสมัครให้ที่ดินแก่ลูกสาว ที่ดินนั้นต้องถูกยึดคืน ทรัพย์สินอื่นจาการค้าขาย จากการทำงานของลูก ไม่เกี่ยว ยึดไม่ได้
รศ.เจษฎ์ กล่าวว่า การยึดทรัพย์สินเพื่อนำมาชดใช้กับคดีทุจริต มักจะได้เงินไม่ครบตามที่ศาลกำหนด เพราะผู้ที่กระทำผิด มักจะรู้ตัวว่าจะถูกลงโทษ จึงมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปก่อนแล้ว
ในไทยยังนึกไม่ออกเลยว่า กรณีไหนได้เงินครบตามจำนวน ส่วนใหญ่จะได้ไม่ครบ
รศ.เจษฎ์ เสนอว่า อาจจะต้องเพิ่มบทบัญญัติของกฎหมายว่า บรรดาทรัพย์สินของนักการเมืองที่ยื่นไว้ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ถ้าหากมีการทุจริตหรือกระทำการก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ให้อยู่ในค่ายการบังคับคดีทั้งสิ้น ถ้ามีการยักย้ายถ่ายเทไปที่ใด ย่อมสามารถไปติดตามเอาคืนได้