สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า วันที่ 21 มิ.ย.2565 ที่จะถึงนี้ เป็นวัน "ครีษมายัน" (ครีด-สะ-มา-ยัน) (Summer Solstice) ช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี "Solstice" เป็นภาษาอินโดยูโรเปียน คำว่า "Stice" หมายถึง สถิต หรือ หยุด ดังนั้น Summer Solstice จึงหมายถึงวันที่ดวงอาทิตย์โคจรไปถึงจุดหยุด หรือจุดสุดทางเหนือ
แต่ละวันดวงอาทิตย์จะปรากฏในตำแหน่งต่างกัน เปลี่ยนตำแหน่งไปประมาณวันละ 1 องศา ตั้งแต่เดือน มี.ค.เป็นต้นมา ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ไปทางเหนือเรื่อยๆ และจะหยุดที่จุดเหนือสุดในวันที่ 21 มิ.ย. จากนั้นจะค่อยๆ เคลื่อนลงมาทางใต้ ในวันดังกล่าวดวงอาทิตย์จะขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด และตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด จึงทำให้มีช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี นับเป็นวันเริ่มต้นฤดูร้อนของประเทศทางซีกโลกเหนือ และเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศทางซีกโลกใต้
ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลาประมาณ 05.51 น. และจะตกลับขอบฟ้า เวลาประมาณ 18.47 น. รวมเวลาที่ดวงอาทิตย์ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าประมาณ 12 ชั่วโมง 56 นาที
ใน 1 ปี ที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ จะเกิดปรากฏการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการขึ้น - ตก ของดวงอาทิตย์ทั้งหมด 4 ครั้ง ได้แก่
- วันครีษมายัน - วันที่กลางวันยาวนานที่สุด
- วันเหมายัน - วันที่กลางคืนยาวนานที่สุด
- วันวสันตวิษุวัตและวันศารทวิษุวัต - วันที่มีช่วงเวลากลางวันและกลางคืนยาวนานเท่ากัน
ปรากฏการณ์ถัดไปที่เกี่ยวข้องกับการขึ้น - ตกของดวงอาทิตย์ ได้แก่ "วันศารทวิษุวัต" (Autumnal Equinox) ตรงกับวันที่ 23 ก.ย. เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกและตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกพอดี ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันยาวนานเท่ากับกลางคืน สำหรับประเทศทางซีกโลกเหนือ ถือเป็นวันเปลี่ยนฤดูกาลเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ส่วนประเทศทางซีกโลกใต้เปลี่ยนสู่ฤดูใบไม้ผลิ