วันนี้ (21 มิ.ย.2565) นายคอร์ลิน เวียร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโฮปเวลล์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดแถลงข่าวทวงถามความเป็นธรรมจากกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยระบุว่า ตั้งแต่ปี 2541 กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเคยเป็นคู่สัญญาสัมปทานโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟ ยกระดับในกรุงเทพมหานคร ได้บอกเลิกสัญญา บริษัทฯ ได้ฟ้องต่อคณะอนุญาโตตุลาการ และได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาด ให้การรถไฟแห่งประเทศ จะต้องคืนเงินค่าตอบแทน
เงินลงทุนที่ได้ลงทุนไปแล้ว แต่จนถึงขณะนี้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ ยังไม่ได้จ่ายเงินคืน การกระทำดังกล่าวถือว่า การไม่เคารพกฎหมายของรัฐ ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่นในการลงทุน และส่วนตัวจะไม่ลงทุนในไทย
นายสุภัทร ติระชูศักดิ์ ฝ่ายกฎหมายบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โฮปเวล์จัดตั้งบริษัทขึ้นในปี 2533 แต่ในปี 2564 การรถไฟฯ ได้ดำเนินการฟ้องร้องว่าการจัดตั้งบริษัทเป็นโมฆะ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่กระทรวงพาณิชย์ ได้ยืนยันต่อ ครม.แล้วว่าบริษัทจดทะเบียนโดยชอบ
เรียกร้องความเป็นธรรมคืนเงิน 27,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีเอกสารจดทะเบียนบริษัทปี 2533 ซึ่งโฮปเวลล์ ได้รับสัมปทาน ในการประกอบกิจการและมีการตั้งบริษัท จึงสอบถามไปยังการรถไฟฯ ในขณะนั้นว่าเป็นการจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ซึ่งการรถไฟฯ มีหนังสือแจ้งกลับมาว่าการตั้งบริษัทอยู่ในวัตถุประสงค์ แต่ในปี 2564 กลับมาฟ้องว่าบริษัทผิดกฎหมาย จึงถือว่าไม่เป็นธรรม
ขณะเดียวกัน นับตั้งแต่ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาปี 2562 มีการเจรจา 3 ครั้ง บริษัทฯ ได้ยื่นข้อเสนอให้ภาครัฐจ่ายเงินคืน 27,000 ล้านบาท และยุติการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ภาครัฐไม่ตกลง ไม่ตอบรับในเวลาที่กำหนด หากภาครัฐต้องการเจรจาอีกครั้ง ก็อาจจะต้องตั้งต้นที่วงเงิน 11,888 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5
ส่วนประเด็นคำว่า "ค่าโง่" ยืนยันว่า บริษัทไม่ได้เข้ามาโกงแน่นอน และการชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งตัดสินให้การรถไฟฯ จ่ายเงินคืนเพียง 9,000 ล้านบาท จากที่ยื่นขอไป 10,000 ล้านบาท ยังไม่ครอบคลุมเงินที่บริษัทลงทุนไปแล้วกว่า 20,000 ล้านบาท จากวงเงินโครงการทั้งหมดประมาณ 80,000 ล้านบาท
วาทกรรมค่าโง่ ยืนยันว่า บริษัทไม่ได้โกงรัฐบาล การฟ้องเพื่อขอเงินคืนจากที่รัฐบาลรับไป เพราะเป็นเงินโฮปเวลล์ 100% การไม่จ่ายเป็นการกระทำของภาครัฐส่วนเรื่องการฟ้องร้องต่อในอนาคตกับบุคคล ขณะนี้ยังต้องรอการพิจารณาจากคณะกรรมการบริษัทก่อน
สำหรับประเด็นเรื่องการเจรจา ฝั่งโฮปเวลล์ บอกว่า หากรัฐอยากเจรจาก็ขอเข้ามา เพราะก่อนหน้านี้เคยเปิดโอกาสให้เจรจาแล้ว 3 รอบ และยื่นข้อเสนอให้ชดใช้ค่าเสียหายประมาณ 18,000 ล้านบาท จาก 22,000 ล้านบาท เมื่อปี 2563 ไปแล้ว แต่รัฐก็ไม่ได้ตอบรับในเวลาที่กำหนด
ดังนั้นหากอยากจะเจรจารอบใหม่ อาจยืนค่าเสียหายที่ 27,000 ล้านบาท ตามมูลค่าที่รัฐต้องคืนให้กับโฮปเวลล์ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเงินต้นตามที่คณะอนุญาโตตุลาการ วินิจฉัยชี้ขาด 11,888 ล้านบาท รวมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี และจะบวกเพิ่มอีกวันละ 2.4 ล้านบาท หากยังประวิงเวลา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รมว.คมนาคมเตรียมถกอัยการหารือ "โฮปเวลล์"
"ศักดิ์สยาม" ยืนยันไม่จ่ายค่าโง่โฮปเวลล์