วันนี้ (26 มิ.ย.2565) ผู้ประกอบการโรงงานผลิตถ่านรายใหญ่ในย่าน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ระบุว่า ปกติลูกค้าในประเทศที่ซื้อถ่านจากโรงงาน เป็นกลุ่มธุรกิจร้านอาหารและร้านค้ารายย่อย ซึ่งปัจจุบันยอดขายยังทรงตัวปกติ ส่วนกระแสการสนับสนุนให้ประชาชนใช้เตาอั้งโล่เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เชื่อว่าไม่มีผล
ราคาถ่านที่ปรับตัวสูงขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับกระแสเตาอั้งโล่ แต่เนื่องจากต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งเพิ่มขึ้นช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้โรงงานจำเป็นต้องปรับราคาขายเล็กน้อย เช่น ถ่านโกงกาง ต้นทุนเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 แต่ราคาขายปรับขึ้นเพียงร้อยละ 6-7 ทั้งนี้เพื่อให้ธุรกิจยังสามารถประคองต่อไปได้
ขณะที่ความต้องการใช้ถ่านเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ชาวบ้านที่ยึดอาชีพเผาถ่านส่งขาย ผลิตถ่านไม่เพียงพอกับความต้องการ โดยชาวบ้านใน ต.คำไผ่ อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร ต้องเร่งเผาถ่านส่งขายให้กับลูกค้า ใช้ไม้ฟืนทุกชนิดที่รับซื้อจากชาวบ้าน โดยถ่านที่เผาเสร็จจะขายในราคากิโลกรัมละ 10 บาท หรือกระสอบละ 150 บาท
เช่นเดียวกับชาวบ้าน ต.หาดทรายขาว อ.เชียงคาน จ.เลย เปิดเผยว่า แม้ความต้องการใช้ถ่านเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังไม่มีการปรับราคา โดยราคาขายยังคงอยู่ที่ถุงละ 30-35 บาท เพราะไม่อยากให้กระทบลูกค้าประจำที่มาสั่งซื้อไปขายปลีก
ด้านผู้ค้าใน จ.ตรัง เร่งปรับตัวรับพลังงานแพง โดยร้านข้าวแกงหลายแห่งหันมาใช้เตาถ่านอุ่นอาหารแทนการใช้แก๊ส และถ่านมีการปรับราคาสูงขึ้น จากเดิมถุงละ 30 บาท ขณะนี้ปรับขึ้นมาเป็นถุงละ 35 บาท โดยได้รับแจ้งจากผู้จำหน่ายว่าจะปรับราคาขึ้นอีกถุงละ 2 บาท เป็นถุงละ 37 บาท
ขณะเดียวกันพบข้อมูลการนำเข้าถ่านไม้ในพื้นที่ จ.ระนอง จากเมียนมา ตั้งแต่ต้นปีลดลงอย่างต่อเนื่อง ผู้นำเข้าคนหนึ่งเปิดเผยว่า ผู้ผลิตที่เมียนมาผลิตได้น้อยลง ขาดแคลนวัตถุดิบที่จะนำมาเผาถ่าน และผู้สั่งซื้อหลายประเทศค้างชำระค่าสินค้า ขณะนี้ปริมาณการนำเข้าจากสัปดาห์ละ 3-5 ลำเรือ เหลือเพียงสัปดาห์ละ 1 ลำเรือเท่านั้น
อ่านข่าวอื่นๆ
สำรวจ "เตาถ่าน" เมืองกรุง ทางออกแก้แก๊สแพงจริงหรือ ?
สมาคมข้าวถุงไทยยันยังไม่ขึ้นราคา แต่อาจลดโปรโมชัน