ประชาชนหลายร้อยคนในเมืองอุทัยปุระ รัฐราชาสถาน ทางตะวันตกของอินเดีย พากันออกมาลุกฮือเคลื่อนไหวไปตามท้องถนน เพื่อประท้วงแสดงความไม่พอใจเหตุสังหารโหดชาวฮินดู โดยผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นชายชาวมุสลิม 2 คน
ผู้เสียชีวิตเป็นชายวัย 40 ปี มีอาชีพเป็นช่างตัดเสื้อ โดยผู้ก่อเหตุ 2 คน ถ่ายวิดีโอขณะเข้าไปทำร้ายและสังหารเขาด้วยการตัดศีรษะอย่างโหดเหี้ยม รวมทั้งโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์ โดยอ้างว่า ทำไปเพื่อล้างแค้นเพราะผู้เสียชีวิตโพสต์สนับสนุนการดูหมิ่นศาสดาของศาสนาอิสลามโดยนูปูร์ ชาร์มา อดีตโฆษกพรรคบีเจพี พรรครัฐบาลของอินเดีย นอกจากนี้ยังถ่ายวิดีโอตัวเองโชว์มีดเปื้อนเลือดและส่งคำขู่ไปถึงนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียด้วย
ภรรยาของผู้เสียชีวิตระบุว่า ต้องการความยุติธรรม และต้องการให้ผู้ก่อเหตุถูกประหารชีวิต พิธีฌาปนกิจของผู้เสียชีวิตที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้มีผู้เข้าร่วมหลายร้อยคนจนแน่นขนัดพื้นที่ ซึ่งหลังเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทางการรัฐราชาสถานต้องสั่งระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ตทั่วทั้งรัฐ 24 ชม.ป้องกันไม่ให้วิดีโอนี้แพร่ไปไกลกว่าเดิม และยังสั่งเคอร์ฟิวพื้นที่ในการดูแลของสถานีตำรวจ 7 แห่ง ป้องกันเหตุวุ่นวาย
นอกจากนี้ยังบังคับใช้กฎหมายห้ามการรวมตัวกันเกิน 4 คน ทั่วทั้งรัฐเป็นเวลา 1 เดือน และรับปากว่าจะรีบสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอร้องให้ประชาชนหยุดแชร์วิดีโอสังหารโหด แต่สถานการณ์ความตึงเครียดแผ่กระจายไปทั่วทั้งอินเดีย ในกรุงนิวเดลีมีคนจำนวนมากออกมาชุมนุม และเกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่
เหตุสลดใจที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ถือเป็นการยกระดับความขัดแย้งระหว่างศาสนาในอินเดียขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง หลังจากช่วงกว่าเดือนที่ผ่านมามีกระแสความไม่พอใจเกิดขึ้นในหมู่ชาวมุสลิม ที่ออกมาประท้วงต่อต้านการกล่าวถ้อยคำดูหมิ่นนบีมูฮัมหมัด ศาสดาแห่งศาสนาอิสลาม จนลุกลามกลายเป็นการประท้วงไปทั่วประเทศและเกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลที่นำโดยพรรคชาตินิยมฮินดูอย่างพรรคบีเจพีอย่างรุนแรง รวมทั้งยังลุกลามไปสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาติมุสลิมอีกหลายประเทศ
ต้นตอของเรื่องนี้คือนูปูร์ ชาร์มา อดีตโฆษกพรรคบีเจพี ที่ถูกปลดจากตำแหน่ง หลังจากเมื่อเดือนที่แล้วเธอไปร่วมการโต้อภิปรายทางโทรทัศน์ และได้กล่าวถ้อยคำหมิ่นศาสดาของศาสนาอิสลาม จุดกระแสพิพาทระหว่างศาสนา ซึ่งฝังรากลึกในสังคมอินเดียมานาน
ทั้งนี้ประชากรอินเดียราว 1,400 ล้านคน มีชาวมุสลิมเป็นคนส่วนน้อยประมาณ 210 ล้านคน หรือประมาณ 15%