เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2565 เกิดเหตุหญิงคนหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี เธอเกือบปลิดชีพตัวเอง หลังรู้ว่าชายที่แอบรัก กลายเป็นมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินให้สูญเงิน 70,000 บาท แต่โชคดีมีผู้เห็นเหตุการณ์มาช่วยไว้ได้ทัน แต่เธอยังร้องไห้ฟูมฟาย กระทั่งสามีพยายามสอบถามสาเหตุ จนรับสารภาพว่า ได้โอนเงินไปให้ชายเกาหลี ที่รู้จักกันผ่านทางแอปพลิเคชันหาคู่ คุยกันแบบสนิทสนม
จากการตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้เสียหาย พบข้อความพูดคุยสนทนากับชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ใช้รูปโปรไฟล์ เป็นรูปชายดาราดังเกาหลี โดยในบทสนทนา ชายคนดังกล่าวเรียกว่า “ที่รัก” ทุกคำ
ชายคนดังกล่าวอ้างว่าเดินทางจากเกาหลี มาเมืองไทยแล้ว แต่อ้างว่างถูกจับที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ระหว่างเดินทางมาจากเกาหลีใต้ เพื่อมาหาผู้เสียหาย ที่ประเทศไทย ต้องใช้เงินประกัน 15,000 บาท อ้างจะคืนให้ภายหลัง
นอกจากนี้ฝ่ายชายยังโชว์จำนวนเงินในบัญชี ที่อ้างว่ามีฝากไว้มากถึง 44 ล้านบาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินให้ตามคำร้องขอ รวมกว่า 70,000 บาท สุดท้ายรู้ภายหลังว่า ชายที่คุยด้วยเป็นมิจฉาชีพ
เขาบอกว่าคุณช่วยเหลือฉันหน่อย เรียกว่าที่รัก ตอนนี้กำลังเดือดร้อน เพราะมีการตรวจโควิด และต้องใช้ค่าตรวจ 25,000 บาท ส่วนครั้งที่ 2 อีก 15,000 บาท อ้างว่ามีกระเป๋าใบใหญ่เจ้าหน้าที่จะมาตรวจค้น แต่ไม่อยากให้เปิดอ้างว่า ในกระเป๋ามีเงินต่างประเทศเยอะ ขอให้โอนเงินให้
แนะสังเกตมุกมิจฉาชีพลวงโอนเงิน
ล่าสุด ผู้เสียหายเตรียมแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้ว ในขณะที่ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เตือนภัย มุกหลอกลวงของแก๊งหลอกให้รักแล้วโอนเงิน หรือ โรมแมนซ์สแกม มีวิธีสังเกต คือ
- หลอกว่าจะส่งทรัพย์สินมาให้แต่ต้องจ่ายค่าภาษีก่อนเพื่อที่จะได้รับ
- หลอกว่าตัวเองหรือญาติป่วยแต่ประกันยังเบิกจ่ายไม่ได้ ให้โอนเงินไปให้เพื่อรักษา
- หลอกว่าได้รับมรดกเป็นเงินมหาศาลแต่ต้องชำระภาษีก่อน มิเช่นนั้นจะไม่ได้รับเงินมรดก
- หลอกว่าส่งสิ่งของราคาแพงมาให้แต่ติดอยู่ที่ด่านต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก่อน
- หลอกว่าเป็นนักธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยและต้องการให้ร่วมทุนด้วย ซึ่งผลตอบแทนดีมาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระวัง! มิจฉาชีพหลอกโอนเงินทางเฟซบุ๊ก
หลอกรักหลอกโอนเงิน สูญเงินกว่าเกือบ 2 แสนบาท