วันนี้ (12 ก.ค.2565) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจหาบเร่-แผงลอย บริเวณตลาดพรานนก เขตบางกอกน้อย ว่า หาบเร่-แผงลอยเป็นเรื่องสำคัญ ที่ผ่านมาได้มีการยกเลิกจุดผ่อนผันไปจำนวนมาก จุดที่มาตรวจวันนี้เป็น 1 ใน 31 จุดที่อยู่ระหว่างพิจารณาลงนามเป็นจุดทำการค้า
จากที่เดินสำรวจความเห็นประชาชนเช้านี้ ส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า ควรต้องมีอยู่ เพราะเป็นวิถีชีวิตของทั้งคนซื้อและคนขาย แต่ปัญหาเรื่องความเป็นระเบียบของทางเดินเท้าที่คนต้องใช้สัญจรต้องมีการกำหนดให้ชัดเจน ตามข้อกำหนดเดิมถนน 4 ช่องจราจร มีทางเดิน 2 เมตร พื้นที่ตั้งแผงหาบเร่ 1 เมตร ตีเส้นแบ่งชัดเจน
ต้องขอความร่วมมือกับผู้ค้าให้ปฏิบัติตามข้อกำหนด สิ่งสำคัญคือต้องให้คนเดินได้สะดวก ไม่รกรุงรัง
สำหรับการบริหารจัดการพื้นที่ต้องตั้งคณะกรรมการดูแลทุกจุดโดยให้ร้านค้าผู้ขาย คนเดิน และเจ้าของอาคารในพื้นที่มีส่วนร่วมช่วยกันกำกับดูแล หากไม่เรียบร้อยก็ยกเลิก ส่วนการหยุดวันจันทร์ เพื่อทำความสะอาดต้องจริงจังมากขึ้น ตามหลักการ คือ ต้องหยุดสัปดาห์ละ 1 วัน จะเป็นวันไหนแล้วแต่พื้นที่อาจไม่เหมือนกัน
ต่อไปอาจพิจารณาให้หยุด 2 สัปดาห์ครั้ง ขึ้นอยู่กับพื้นที่ว่าดูแลกันได้ดีแค่ไหน ซึ่งมอบรองผู้ว่าฯ กทม.ไปดูความเหมาะสม โดยจะใช้จุดบริเวณตลาดพรานนกนี้ เป็นพื้นที่ต้นแบบในการจัดระเบียบจุดอื่น ๆ ต่อไป
นอกจากนี้ ในส่วนจุดผ่อนผันที่พิจารณาเพิ่มเติม ขณะนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) กำลังทบทวน 9 จุด และอยู่ระหว่างเจ้าพนักงานท้องถิ่นพิจารณาลงนาม 31 จุด อีกทั้ง มีแผนทำ Hawker Center ซึ่งกำลังเจรจาพื้นที่ใต้ทางด่วน และพื้นที่ว่างของเอกชน เพื่อจะนำหาบเร่แผงลอยเข้าไปอยู่ ซึ่งมีหลายพื้นที่ที่เอกชนยินดีให้หาบเร่แผงลอยเข้าไปตั้งและเก็บค่าเช่าไม่แพงกำลังเร่งหาพื้นที่ที่จะผลักดันบางส่วนเข้าไป
ส่วนเทศกิจก็ต้องโปร่งใส จะเก็บเงินต้องชัดเจน จะค่าบำรุง หรือค่าปรับ ต้องมีหลักฐาน ไม่เลือกปฏิบัติ และต้องเท่าเทียมกันทุกเขต หากส่วนหนึ่งนำกลับมาพัฒนาพ่อค้าแม่ค้าได้ก็ดี เช่น ทำเป็นกองทุนพัฒนาหาบเร่