เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงบุกทำเนียบนายกรัฐมนตรีศรีลังกา แม้ตำรวจจะวางกำลังควบคุมสถานการณ์ โดยใช้แก๊สน้ำตาและน้ำแรงดันสูง แต่ไม่สามารถต้านทานกลุ่มผู้ประท้วงได้ นอกจากนี้ยังบุกยึดอาคารหน่วยงานราชการอีกหลายแห่งได้สำเร็จ รวมถึงสถานีโทรทัศน์ของทางการศรีลังกา 2 แห่ง
เหตุรุนแรงในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการยืนยันว่า โกตาบายา ราจาปักษา ประธานาธิบดี พร้อมด้วยภริยา และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 2 คน เดินทางออกนอกประเทศไปยังกรุงมาเล ของมัลดีฟส์แล้ว แต่ยังไม่ลาออกจากตำแหน่ง
มีรายงานว่า รัฐบาลอินเดีย ซึ่งมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลมัลดีฟส์ อาจเป็นผู้ช่วยเหลือผู้นำศรีลังกาในการอพยพออกนอกประเทศ แต่รัฐบาลอินเดียออกมาปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว และย้ำว่าอินเดียพร้อมสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือชาวศรีลังกา
อ่านข่าว : "ประธานาธิบดีศรีลังกา" หนีออกนอกประเทศ
ขณะที่รานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรีศรีลังกา ทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดี โดยมีคำสั่งให้ผู้บัญชาการกองทัพและหัวหน้าสำนักงานตำรวจ ทำในสิ่งที่จำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมกับประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วกรุงโคลอมโบ และประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ทางตะวันตก รวมถึงเมืองหลวงของประเทศ เพื่อควบคุมสถานการณ์ที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด ที่ประชุมหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ของศรีลังกา เห็นตรงกันว่า รานิลควรลาออกจากตำแหน่งโดยทันที เพื่อแก้ไขวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้น
ทั้งนี้ สมาชิกรัฐสภาศรีลังกาจำเป็นต้องจัดการเลือกตั้งภายในเวลา 30 วัน ผู้สมัครต้องได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภา 113 คน จากทั้งหมด 225 คน ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ จึงจะเป็นฝ่ายชนะ
ประธานาธิบดีศรีลังกาคนใหม่ ต้องดำรงตำแหน่งอีก 2 ปี จนถึงปี 2024 ตามระยะเวลาการดำรงตำแหน่งที่เหลืออยู่ของโกตาบายา นอกจากนี้ต้องแบกรับภาระในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ หลังจากประชาชนขาดแคลนอาหาร เชื้อเพลิงและยารักษาโรค
อ่านข่าวอื่นๆ
"ศรีลังกา" เตรียมเลือกประธานาธิบดี-นายกฯ คนใหม่ 20 ก.ค.นี้
วิเคราะห์ : มองอนาคตหลัง "ศรีลังกา" ล้มละลาย
"ปิติ" ย้อนอดีต-มองอนาคตวิกฤต "ศรีลังกา"