วันนี้ (22 ก.ค.2565) ผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น และ เทเลนอร์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค ร่วมแถลง โดยระบุุว่า การควบรวมกิจการระหว่าง 2 บริษัท เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการโทรคมนาคม และค่าบริการที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะสูงขึ้นนั้น มีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำกับดูแลอยู่แล้ว
ทั้งนี้ เรียกร้องให้ กสทช.เร่งพิจารณาเงื่อนไขในการควบรวมกิจการ หลังจากที่บริษัทได้มีการยื่นแผนให้กับ กสทช.พิจารณาไปแล้วเมื่อเดือน ม.ค.2565 โดยทั้ง 2 บริษัทต้องการให้กระบวนการรับซื้อหุ้นคืนเกิดขึ้นในช่วงเดือน ส.ค. เพื่อไม่ให้กระทบความเชื่อมั่นตลาดทุนและผู้ถือหุ้น โดยย้ำว่า ตาม พ.ร.บ.ปี 2561 การควบรวมสามารถทำได้เลยไม่ต้องขออนุมัติ กสทช. แต่ กสทช. มีอำนาจในการกำหนดเงื่อนไข
ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ปฏิเสธว่า การควบรวมจะไม่ทำให้เกิดการผูกขาดเนื่องการรวมกันแล้วลูกค้าจะไม่เกินร้อยละ 50 ของตลาด แต่อยู่ระหว่างร้อยละ 46 - 48 เนื่องจากในแต่ละปี มีลูกค้าย้ายค่ายกว่าร้อยละ 30 และหาก กสทช. มีข้อโต้แย้งไม่เห็นด้วยในการควบรวมก็ต้องไปร้องศาลปกครอง แต่เชื่อว่าจะไม่ไปไม่ถึงจุดนั้น
ทั้งนี้มีรายงานว่า อนุกรรมการศึกษาและวิเคราะห์กรณีควบรวมกิจการ 4 คณะของ กสทช.มีการลงมติ พบว่าคณะกรรมการ 3 คณะไม่เห็นด้วยกับการรวมธุรกิจ มีเพียง 1 คณะเท่านั้นที่เห็นด้วย คาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด กสทช.ในสัปดาห์หน้า ขณะที่บริษัทโนมูระ พัฒนสิน ยังเชื่อว่าร้อยละ 80 ดีลควบรวมกิจการครั้งนี้ ยังคงเกิดขึ้นได้แบบมีเงื่อนไข
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สภาองค์กรผู้บริโภคร้อง กสทช.ชะลอลงมติดีล "ทรู-ดีแทค"
กสทช.ห่วงควบรวม "ทรู-ดีแทค" สุ่มเสี่ยงฮั้วค่าบริการ
ปิดดีลทรู-ดีแทคสู่ยุค 4.0 คาดแชร์ส่วนแบ่งตลาด 2.17 แสนล้าน
"เทเลนอร์" ยอมรับอยู่ระหว่างเจรจาควบรวม "ทรู-ดีแทค"