วันนี้ (24 ก.ค.2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เรียกประชุมด่วนผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข หลังองค์การอนามัยโลกประกาศให้โรคฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ
กรมควบคุมโรครายงานสถานการณ์หลังลงพื้นที่ไปสอบสวนโรคที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งชายชาวไนจีเรียผู้ป่วยรายแรกมาอยู่ในไทยตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค.2564 ไม่ให้ความร่วมมือการสอบสวนโรค และได้หลบหนีไปกัมพูชา เพราะอยู่ในไทยเกินกฎหมายกำหนด
ภายหลังการประชุม นายอนุทิน ระบุว่า จากการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยขณะอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ย้อนหลังไป 1 เดือน ยังไม่พบคนติดเชื้อฝีดาษลิงเพิ่ม และได้สั่งการให้ด่านควบคุมโรคทั่วประเทศ ประสานกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเฝ้าระวังคนที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
นายอนุทิน ยืนยันไทยมีระบบคัดกรองและเฝ้าระวังตั้งแต่โควิด-19 ระบาด เชื่อว่าจะช่วยคัดกรองโรคฝีดาษลิงได้เช่นกัน โดยยืนยันความพร้อมของวัคซีนฝีดาษ ที่กรมวิทยาศาสตร์ตรวจสอบคุณภาพแล้ว รวมทั้งความพร้อมด้านการรักษาพยาบาล ที่กรมการแพทย์ได้เตรียมไว้ ทั้งยารักษาตามอาการและยาเฉพาะโรค และสถานพยาบาลมีความพร้อมรักษาผู้ป่วย
และยกระดับการเฝ้าระวังจากศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) ของกรมควบคุมโรค เป็น EOC ที่มีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน จะทำให้การสั่งการเฝ้าระวังมีความครอบคลุมมากขึ้น
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะโรคนี้ไม่ได้ติดต่อกันง่ายเหมือนโควิด-19 แต่ขอให้คงมาตรการสาธารณสุข
และวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาว่า จะยกระดับจากโรคติดต่อเฝ้าระวัง เป็นโรคติดต่ออันตรายหรือไม่ เบื้องต้นเห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องยกระดับมาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศสำหรับประเทศกลุ่มเสี่ยง ขณะเดียวกันกรมควบคุมโรคจะประสานกับทางการกัมพูชาเพื่อสอบสวนโรคชายชาวไนจีเรียผู้ป่วยคนแรกเพิ่มเติมด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
WHO ประกาศ "ฝีดาษวานร" เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข