กรณีมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ที่ระยะหลังถูกใช้เป็นสถานที่ทางการเมือง กำลังจะถูก ป.ป.ช.เข้าตรวจสอบถึงวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งมูลนิธิแห่งนี้ โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตอบสื่อมวลชนหลังถูกถามเรื่องกรณีแชตไลน์หลุด และปรากฎมีชื่อของนักการเมืองพรรคเล็กบางคน ได้เซ็นรับเงินรายเดือนๆ ละ 100,000 บาท พร้อมมีใบเสร็จเป็นสลิปของการโอนเงิน
ผมไม่รู้เรื่อง ไปถามคนที่ปล่อยข่าวสิ ป่ารอยต่อฯ ไม่ได้ทำอะไร
เมื่อถามามว่า วัตถุประสงค์ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่ที่ผ่านมามีนักการเมืองเข้าไปที่นั่นตลอด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า
ป่ารอยต่อฯ ไม่เกี่ยว และไม่ได้ยุ่งการเมือง ผมเกี่ยวคนเดียว ผมเป็นประธานมูลนิธิฯ และเป็นหัวหน้าพรรค ไม่เกี่ยวได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 ระบุว่า เรื่องทั้งหมดเกิดที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาบอกไปรับเงินที่ป่ารอยต่อฯ เขาไปรับกับใคร ผมเจอแค่ทำงาน ส่วนป.ป.ช.รับสอบให้รับไปเลย ก็เหมือนเรื่องนาฬิกา เรื่องจริงเป็นอย่างไร ไม่กลัวหรอก
อ่านข่าวเพิ่ม "กรุงศรีวิไล" ก้มกราบ "พล.อ.ประวิตร" ลงพื้นที่ จ.สมุทรปราการ
ป.ป.ช.รับลูกลุยสอบส.ส.รับเงินเกิน 3,000 บาท
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) ยอมรับว่า กำลังติดตามตรวจสอบ-รวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริง และหากพบว่ามีมูลข้อเท็จ ป.ป.ช.จะได้ตั้งเรื่องเพื่อตรวจสอบตามกระบวนการอีกครั้ง
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. อ้างอิงว่าตามกฎหมายของ ป.ป.ช.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่สามารถรับผลประโยชน์ที่คิดเป็นเงินเกิน 3,000 บาทได้ และหากกระทำฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช. และหากรับเงินเพื่อแลกกับการลงมติอภิปรายฯ ก็จะผิดในข้อหารับสินบนด้วย รวมถึงความผิดตามมาตรฐานจริยธรรม ร้ายแรง-ถูกถอดออกจากตำแหน่ง ส่วนผู้ให้ จะมีความผิดฐานให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐ
โดยวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะนำหลักฐานที่ได้รวบรวมไว้จากสื่อโชเชียล ยื่นร้องคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ใช้อำนาจ ไต่สวนนักการเมืองที่รับโอนเงิน ตามกฎหมาย พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยมีโทษทั้งจำและปรับ รวมถึงอาจเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม มาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงและต้องถูกเพิกถอนสิทธิ์งานทางการเมือง 10 ปี
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชี้ว่าแม้กลไกของรัฐสภาจะไม่สามารถทำให้รัฐบาลชุดนี้เปลี่ยนแปลงได้ แต่การเลือกตั้ง ส.ส.ในอนาคต จะเป็นตัวชี้วัด-กำหนดชะตาของพรรคการเมือง ที่ยังสนับสนุนกับกลุ่ม 3 ป. ก่อนจะย้ำว่า การปรับ ครม.อาจไม่ได้ช่วยแก้วิกฤตเศรษฐกิจ-วิกฤตประเทศได้ หากแต่การปรับ ครม.เพื่อคงไว้ในอำนาจยาวนานที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยสวข้อง
โผล่อีก! สลิปโอนเงินเข้าบัญชีชื่อนักการเมือง ช่วง ส.ค.64
"ไลน์หลุด" พรรคเล็กรับกล้วยรายเดือน หลังเท "ธรรมนัส" หนุน 11 รมต.
เปิดกฎหมาย! ส.ส.รับเงินเกิน 3 พันบาท จำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่น