ผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์คลิปกล้องหน้ารถ ขณะขับรถบนถนนสายเอเชีย ช่วงแยกคูหา ต.ควนรู อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ในคลิปวิดีโอเป็นภาพขณะเหล็กเส้นขนาดใหญ่ ที่กำลังล้มลงมาบนถนน เกือบจะฟาดรถคันที่อยู่ด้านหน้ารถคันที่มีกล้อง โชคดีรถคันดังกล่าวเห็นก่อน และหลบออกไปทางด้านซ้ายของถนน
ชาวบ้านบอกว่า เกิดเหตุประมาณ 11.30 น.ของวันที่ 24 ก.ค.โดยเหล็กเส้นทั้งชุดค่อย ๆ เอียงและล้มฟาดถนนเสียงดังไปทั่วบริเวณ
ชาวบ้านตกใจรีบวิ่งออกมาดู ซึ่งเหลHกเส้นดังกล่าวไม่ได้ล้มทับรถหรือคน ซึ่งช่วงที่เหล็กเส้นล้มมานั้นเป็นฝั่งขาเข้า อ.รัตภูมิ ตรงไป อ.หาดใหญ่ ซึ่งมีรถผ่านเป็นจำนวนมาก
ด้านนายสมพงศ์ หิรัญประจักษ์ นายช่างโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวง หมายเลข 4 กับทางหลวงหมายเลข 406 (แยกคูหา) จ.สงขลา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ค.มีการยกเหล็กท่อนที่ 3 เพื่อใส่ในหลุมเข็มเจาะ น้ำหนักเหล็กประมาณ 3 ตันกว่า
ส่วนที่เหล็กตกลงมาเกิดจากตะขอหลุดจากตุ้มเหล็กที่อยู่บนตะขอทำให้ไม่สามารถควบคุมเหล็ก เหล็กจึงตกมาขวางทางจราจร แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหาย
ส่วนเรื่องถนนบริเวณด้านข้างที่มีหลุมตอนนี้ทางโครงการได้เตรียมใช้ยางมะตอย เพื่อเข้าซ่อมแซมทั้งหมดแล้ว
ขณะที่ ล่าสุด กรมทางหลวงชี้แจงกรณีโครงเหล็กเสาเข็มล้มพับเข้ามาในผิวจราจรบริเวณก่อสร้างโครงการทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวงหมายเลข 4 กับทางหลวงหมายเลข 406 (แยกคูหา) จ.สงขลา
ตามที่ได้มีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่คลิปกรณีโครงเหล็กเสาเข็มล้มพับเข้ามาในผิวจราจรบริเวณก่อสร้างโครงการทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวงหมายเลข 4 กับทางหลวงหมายเลข 406 (แยกคูหา) จ.สงขลา เนื่องมาจากชุดรอกเกี่ยวยกโครงเหล็กชำรุดระหว่างทำงาน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11:30 น. ของวันที่ 24 ก.ค.2565 นั้น กรมทางหลวงโดยสำนักก่อสร้างสะพาน ขอเรียนชี้แจงแนวทางและการดำเนินการเพื่อแก้ไขและป้องกันเหตุดังกล่าว ดังนี้
โครงการฯ ได้สั่งการผู้รับจ้างให้ทำการตรวจสอบและเปลี่ยนอุปกรณ์การยกหิ้วใหม่ทั้งหมดจากของเดิมที่ชำรุดและเสียหาย พร้อมทั้งกำหนดให้ตรวจสภาพอุปกรณ์ให้พร้อมกับการใช้งานได้อย่างปลอดภัยก่อนดำเนินการก่อสร้างทุกครั้ง
ดำเนินการกั้นช่องจราจรเป็นพื้นที่ก่อสร้างเพิ่มอีก 1 ช่องจราจรขณะทำการติดตั้งโครงเหล็กเสริมเสาเข็มเจาะ เนื่องจากตำแหน่งการเจาะเสาเข็มอยู่ห่างจากขอบด้านในของพื้นที่ก่อสร้างเพียง 1 - 2 ม.เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของผู้สัญจรบนถนนให้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ กรมทางหลวงขออภัยในความไม่สะดวกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอเรียนว่าที่ผ่านมากรมทางหลวงได้เน้นย้ำเรื่องมาตรการความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุดมาโดยตลอด เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยขณะนี้ได้สั่งให้โครงการหยุดงานก่อสร้างบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยอย่างละเอียดและพิจารณามาตรการเสริมความปลอดภัยในด้านต่าง ๆ ก่อนที่จะดำเนินการได้ต่อไป