ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กรมการแพทย์เปิดอาการ "ฝีดาษลิง" พบข้อมูลหายได้เองใน 4 สัปดาห์

สังคม
30 ก.ค. 65
15:01
326
Logo Thai PBS
กรมการแพทย์เปิดอาการ "ฝีดาษลิง" พบข้อมูลหายได้เองใน 4 สัปดาห์
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคฝีดาษวานรติดจากสัมผัสใกล้ชิด หายได้เองใน 4 สัปดาห์ อาการไม่รุนแรงรักษาตามอาการ แต่ถ้าอาการรุนแรง ทีมแพทย์มีความพร้อมในการรักษา ย้ำตื่นตัวแต่อย่าตื่นตระหนก

วันนี้ (30 ก.ค.2565) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากการที่กรมควบคุมโรค ลงพื้นที่สอบสวนผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 2 ของประเทศไทย อาศัยในกรุงเทพมหานคร พบว่าเป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 47 ปี ประวัติมีเพศสัมพันธ์กับชายต่างชาติ โดยผู้ป่วย เริ่มมีอาการปวดเมื่อยตามตัวประมาณ 1 สัปดาห์ก่อน พบมีตุ่มหนองที่ตามตัว และ อวัยวะเพศ ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน โรงพยาบาลเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ส่วนผู้สัมผัสร่วม 10 คน กรมควบคุมโรคได้มอบให้ทีมสอบสวนโรคโรคติดตามผู้สัมผัสอย่างใกล้ชิด

โรคฝีดาษวานร หรือ โรคฝีดาษลิง เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส (POX Virus) กลุ่มเดียวกับโรคไข้ทรพิษ แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า สถานการณ์โรคฝีดาษวานรทั่วโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 27 ก.ค. 65) ผู้ป่วยยืนยันทั่วโลก 20,849 คน พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้นเป็น 74 ประเทศ โดยพื้นที่การแพร่ระบาดส่วนใหญ่พบอยู่ในแถบทวีปยุโรป

ประเทศที่มีผู้ป่วยสูง 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 4,639 คน สเปน 4,001 คน เยอรมัน 2,459 คน สหราชอาณาจักร 2,367 คน และฝรั่งเศส 978 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศชายเกือบทั้งหมด และมีผู้เสียชีวิต 5 คน ซึ่งอยู่ในแอฟริกาทั้งหมด ขณะที่ผู้เสียชีวิตจากไข้ทรพิษพบว่ามากกว่าร้อยละ 60 ของผู้ป่วย

พญ.นฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การติดต่อและการแพร่กระจายของโรค พบว่า ส่วนมากติดต่อจากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากตุ่มหนอง สะเก็ดแผล (Contact) ของผู้ป่วย ถ้าอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยในระยะประชิด เช่น กินข้าวหรือ อยู่ห้องเดียวกัน หรืออาศัยนอนด้วยกัน การแพร่กระจายอาจติดต่อทางฝอยละออง (Droplet) ได้ ซึ่งไวรัสฝีดาษลิง มีเปลือกหุ้ม ธรรมชาติเป็นไวรัสที่ไม่แข็งแรง ถูกสบู่ล้างก็ตาย แต่เชื้อจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมนานหรือไม่ ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ โดยระยะฟักตัวของโรคขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละคน โดยทั่วไปที่ ระยะฟักอยู่ระหว่าง 7- 21 วัน แต่บางรายก็มีระยะฟักตัวนานกว่านั้น

ไวรัสตัวนี้ไม่ได้ติดง่าย แต่ก็ไม่ยาก หากใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันก็มีโอกาส แต่ถ้าล้างมือบ่อยๆ ป้องกันตัวเอง สวมหน้ากาก จะลดโอกาสการสัมผัสเชื้อ 

อาการที่พบในผู้ป่วยฝีดาษวานร

อาการที่พบในผู้ป่วยฝีดาษวานรนอกจากมีไข้ ปวดเมื่อยตามร่างการ ต่อมน้ำเหลืองโตแล้ว มีรายงานการศึกษาใน วารสารทางการแพทย์ พบว่า ผู้ป่วยจะมีผื่นหรือแผลตามผิวหนองหรือเยื่อบุในอวัยวะต่าง ๆ ผื่น ตุ่ม หรือแผลนั้นเกิดที่อวัยวะเพศ 56.3% บริเวณทวารหนัก 41.6% ผู้ป่วยส่วนใหญ่ (86%) จะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต หรือปวดกล้ามเนื้อ โดยอาการเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนมีผื่น หรือหลังผื่นขึ้นก็ได้

อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยบางส่วน ที่มีผื่น โดยไม่มีอาการร่วมอื่น ๆ เลย อาการผิดปกติอื่นที่พบ คือ ปวดทวารหนัก เจ็บคอ แผลในช่องปาก และองคชาติบวม มีผู้ป่วยถึง 1 ใน 3 ที่ติดเชื้อเอชไอวีร่วมด้วย อาการหายได้เองภายในระยะ 2-4 สัปดาห์ การรักษาเน้นการรักษาแบบประคับประคอง เป็นการรักษาตามอาการ เช่น มีไข้ ให้ยาลดไข้ ส่วนยารักษาเฉพาะ ยังไม่มียารักษาเฉพาะ มียาที่ใช้รักษาผู้ป่วยไข้ทรพิษ ในต่างประเทศนำมาศึกษาวิจัยในการดูแลผู้ป่วยฝีดาษวานรที่มีอาการรุนแรง

ทั้งนี้ กรมการแพทย์ได้ร่วมกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ จากสมาคมโรคผิวหนัง สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กและผู้ใหญ่ ราชวิทยาลัย กรมควบคุมโรค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หารือถึงแนวทางการรักษาพยาบาลโรคฝีดาษลิง เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2565 ขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้วและอยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน หรืออีโอซี (EOC) ระดับกระทรวง เพื่อพิจารณาอนุมัติในวันที่ 1 ส.ค.นี้ 

ฝีดาษวานร ไม่ติดต่อง่าย ต้องสัมผัสใกล้ชิด ส่วนใหญ่หายได้เอง รักษาตามอาการของโรค อย่าตื่นตระหนก 


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"บราซิล-สเปน" พบผู้เสียชีวิตเชื่อมโยงฝีดาษลิง

สธ.สอบผู้ป่วยฝีดาษวานรรายที่ 2 พบเสี่ยงสูง 13 คน

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง