วันนี้ (3 ส.ค.2565) ทำเนียบขาวเผยแพร่แถลงการณ์ของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสำนักจัดการภาวะฉุกเฉินกลางและศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ เป็นผู้นำและประสานงานกับฝ่ายบริหารของทำเนียบขาว ในการต่อสู้กับโรคฝีดาษวานร หรือ ฝีดาษลิง ที่กำลังระบาดหนักในประเทศ รวมถึงการยกระดับความพร้อมในการตรวจหาผู้ติดเชื้อ การฉีดวัคซีน และการรักษา
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ตั้งเป้าที่จะสนับสนุนวัคซีนให้ทั่วถึงมากขึ้นเพื่อชะลอการแพร่ระบาด ขณะที่ล่าสุด สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั่วประเทศมากกว่า 5,800 คน นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อคนแรกเมื่อกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ชาวอเมริกันในซานฟรานซิสโก พากันต่อแถวเพื่อรอรับวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษที่ศูนย์บริการฉีควัคซีน ที่ทางการท้องถิ่นได้จัดตั้งขึ้นสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยเฉพาะ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ให้บริการทางเพศ รวมทั้งคนที่มีสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน
ขณะที่ล่าสุด ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียและผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ ประกาศฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินระดับรัฐแล้ว เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการจัดการกับการแพร่ระบาด ซึ่งการประกาศเป็นภาวะฉุกเฉิน จะเปิดทางให้ทั้ง 2 รัฐเข้าถึงวัคซีนได้มากขึ้น รวมทั้งขยายกลุ่มผู้รับวัคซีนได้กว้างขึ้นอีกด้วย
มีรายงานเมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) แคลิฟอร์เนียพบผู้ติดเชื้อทั่วรัฐมากกว่า 800 คน ขณะที่ในอิลลินอยส์พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 500 คน
เปรูพบผู้เสียชีวิตคนแรกหลังติดเชื้อฝีดาษลิง
ขณะที่ เปรูพบผู้เสียชีวิตคนแรก เมื่อวันจันทร์ที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังมีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั่วประเทศมากกว่า 300 คน
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลในกรุงลิมา ระบุว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชายวัย 45 ปี เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการสาหัส ซึ่งสุขภาพของเขาอ่อนแออยู่แล้วหลังจากหยุดเข้ารับการรักษาการติดเชื้อเอชไอวีไปก่อนหน้านี้
แพทย์ ระบุว่า เขาเสียชีวิตจากภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด เนื่องจากมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ บวกกับโรคประจำตัวอื่น ๆ
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงนอกแอฟริกาแล้วมากกว่า 18,000 คน นับตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่พบในยุโรป