วันนี้ (3 ส.ค.2565) นายเกียรติ สิทธีอมร รองประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฏร กล่าวถึงการเยือนไต้หวันของ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ว่าขณะนี้ทั้งโลกกำลังกังวลกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีน และเป็นการกระทำที่ล่อแหลม ทั้งนี้ มองว่าผลกระทบคงไม่เกิดขึ้นในทันที แต่จะมีผลตามมาแน่นอน
จีนไม่ปล่อยไว้เฉย ๆ แน่ วันนี้ตั้งแต่เช้าก็มีมาตรการออกมา สินค้าไต้หวันถูกแบนแล้ว
นายเกียรติ กล่าวว่า ปัญหาระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เริ่มมานานแล้ว โดยเฉพาะนโยบายอินโด-แปซิฟิก ซึ่งสหรัฐฯ ไม่ต้องการให้จีนมีบทบาทในอินโด-แปซิฟิก
วันนี้เห็นภาพชัดว่า สหรัฐฯ ยอมให้จีนแผ่ขยายอำนาจไปยังอินโด-แปซิฟิก แทนตัวเองไม่ได้
สหรัฐฯ เร่งเครื่องเผชิญหน้า ประลองกำลัง
นายเกียรติ ระบุว่า ขณะนี้จีนห้ามนำเข้าสินค้าจากไต้หวันแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาไต้หวันพึ่งพาจีนทางด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะที่มณฑลฝูเจี้ยน ที่มีสัดส่วนทางการตลาดสูงมาก และการดำเนินการต่าง ๆ ของไต้หวันก็เป็นไปอย่างระมัดระวัง ไม่ให้กระทบกับนโยบายจีนเดียว
แต่การเยือนของเพโลซีครั้งนี้ กลับเป็นการเปลี่ยนเกม และเป็นการเร่งเครื่องเผชิญหน้า ด้วยกรอบของอินโด-แปซฟิกและผลประโยชน์ในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นชนวนที่จะประลองกำลังกัน
จับตาการตอบโต้สหรัฐฯ -จีน
ในอดีตกองกำลังของจีนและพันธมิตรในภูมิภาคไม่สามารถสู้กับสหรัฐฯ ได้ แต่ปัจจุบันอำนาจทางการทหารของจีนเปลี่ยนไป กองกำลังเรือของจีนใหญ่กว่าสหรัฐฯ ทำให้คาดเดาสถานการณ์ยากขึ้น นายเกียรติ กล่าวว่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนสามารถบอกได้ว่า ไม่มีสงครามเกิดขึ้นแน่นอน
แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว ไม่มีใครกล้าฟันธง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังไม่นำไปสู่สงครามระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เป็นเพียงการตอบโต้ที่จะเกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งต้องต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าทั้ง 2 ประเทศจะตอบโต้กันอย่างไร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สถานทูตจีน ชี้ "เพโลซี" เยือน "ไต้หวัน" ผลักความสัมพันธ์ "จีน-สหรัฐฯ" ไปสู่การเผชิญหน้า
ไม่หวั่นภัยคุกคาม "ผู้นำไต้หวัน" ย้ำปกป้องประชาธิปไตย
"แนนซี เพโลซี" ประธานสภาสหรัฐฯ เดินทางถึง "ไต้หวัน"