ชาวสวนลำไยใน ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูน เก็บเกี่ยวผลผลิตลำไยเพื่อนำไปขาย แต่ขณะนี้ราคาลำไยสดร่วงยังไม่ปรับสูงขึ้นอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ โดยเกรด AA รับซื้อกิโลกรัมละ 12-14 บาท เกรด A 4-5 บาท และเกรด B กิโลกรัมละ 3-4 บาท
ถ้าเทียบกับเดือนสิงหาคมปี 2564 ราคาเกรด AA ปรับสูงสุดถึงกิโลกรัมละ 23 บาท ส่วนใหญ่จึงให้สมาชิกในครอบครัวช่วยกันเก็บไม่จ้างแรงงานเพราะไม่คุ้ม
นายสภัช สารญสมบัติ ชาวสวนลำไย ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูน บอกว่า อยากให้รัฐบาลหาแนวทางช่วยเหลือ โดยเฉพาะการหาตลาดต่างประเทศนอกจากประเทศจีน ล่าสุดตนขายที่ดินไปแล้ว 1 แปลง และกำลังประกาศขายเพิ่มอีก 1 แปลง เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ ธกส.ที่สะสมมาหลายปี
ส่วนน.ส.สุภาพร อุตตระพะยอม ผู้รับซื้อลำไยรายย่อย จ.ลำพูน เปิดเผยว่า ราคาลำไยที่รับซื้อในแต่ละวัน ถูกกำหนดจากล้ง และบริษัท โดยเกษตรกรหรือผู้ซื้อรายย่อยไม่สามารถกำหนดราคาเองได้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลในส่วนนี้ด้วย
นางกนกรัตน์ ยุกติรัตน์ พาณิชย์จังหวัดลำพูน ระบุว่า ปีนี้จังหวัดลำพูนมีผลผลิตลำไยออกสู่ตลาด 381,748 ตัน แบ่งเป็นในฤดูกว่า 2.7 แสนตัน และลำไยนอกฤดูอีกกว่า 1.2 แสนตัน ขณะนี้ผู้เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ปัญหาทั้งการขายภายในประเทศ รวมถึงส่งออกต่างประเทศ โดยกำลังเร่งรัดเรื่องใบอนุญาตและขั้นตอนต่างๆเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้ารับซื้อและกระจายผลผลิตช่วยเหลือชาวสวน
ล่าสุดหอการค้าจังหวัดลำพูน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพาณิชย์จังหวัดลำพูน จัดงานเทศกาลลำไยลำพูน ขึ้นระหว่างวันที่ 5-14 สิงหาคมนี้ นอกจากนั้นยังให้ความรู้ชาวสวนเรื่องการทำลำไยอินทรีย์ และปลูกลำไยพันธุ์ที่ตลาดต้องการ เช่นพันธุ์เบี้ยวเขียว เพราะมีราคาสูงและน่าจะเป็นทางออกที่ยั่งยืนในอนาคต